ต้องตรวจสอบพระ และ ตกลงเงื่อนไขการรับประกัน ให้เรียบร้อย
หากไม่เคยติดต่อ หรือรู้จักผู้ให้เช่ามาก่อน
แนะนำให้นัดดูองค์จริง
หลวงปู่ลำภู วัดใหม่อมตรส พระสมเด็จพิมพ์เกศจรดซุ้ม พิมพ์บล็อคกดด้วยเครื่องหลังยันต์จม
ประวัติหลวงพ่อลำภู คงคฺปัญโญ ท่านนามเดิมว่า "ลำภู เรืองรักเรียน" เกิดเมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๔๔๔ ตรงกับวันพุธ แรม ๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีฉลู ณ บ้านไก่จ้น ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรของนายคง นางผิว เรืองรักเรียน มีพี่น้องรวม ๑๐ คน ท่านอุปสมบทเมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๖๕ ณ วัดไก่จ้น หลังจากบวชแล้วท่านได้ศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรมจนสามารถอ่านออกเขียนได้(สมัยนั้นนับคนอ่านเขียนภาษาได้น้อยมากนะครับ) จนแตกฉานในอรรถทั้งภาษาไทยและภาษาขอมบาลี ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๔๖๙ ท่านย้ายจากวัดไก่จ้นไปอยู่วัดช่างทอง จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อศึกษาและปฏิบัติวิปัสนากัมมัฏฐานเป็นเวลา ๗ ปี ท่านได้สอบนักธรรมชั้นตรี ได้เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๓ ที่วัดหนองเขื่อนช้าง จ.สระบุรี จากนั้นปี พ.ศ.๒๔๗๗ ก็ย้ายจากวัดช่างทอง ไปอยู่วัดบางขุนพรหม (วัดใหม่อมตรส) กรุงเทพฯ เพื่อศึกษาต่อ ในปีพ.ศ.๒๕๐๒ ท่านได้รับตำแหน่งรองเจ้าอาวาสวัดบางขุนพรหม (วัดใหม่อมตรส) ทั้งๆที่ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส แต่หลวงปู่ลำภู ท่านบอกว่า "ผมแก่แล้วไม่สามารถทำหน้าที่เจ้าอาวาสได้ ขอให้พิจารณาพระที่มีอายุพรรษาสมควรแก่หน้าที่ต่อไป" การสละสิทธิ์ที่จะพึงได้ของหลวงปู่ลำภูได้ประกาศในที่ประชุมคัดเลือกเจ้าอาวาสในครั้งนั้นเป็นการเสียสละอันยิ่งใหญ่ ในปี พ.ศ.๒๕๑๐ ท่านได้ตำแหน่งฐานานุกรม เป็นพระครูสังฆรักษ์ ในปี พ.ศ.๒๕๑๒ ต่อมาได้รับตำแหน่งรักษาการแทน เจ้าอาวาสวัดบางขุนพรหม (วัดใหม่อมตรส) วัดไก่จ้น คือที่พำนักยามสิ้นอายุขัยของพระครูอมรคุณาจาร(หลวงปู่ลำภู) ในช่วงที่หลวงปู่ลำภูท่านมีอายุมากแล้ว ท่านได้สร้างวิหารส่วนตัวไว้ที่วัดไก่จ้น ท่านได้สั่งกับศิษย์ใกล้ชิดไว้ว่า ยามเมื่อท่านสิ้นอายุขัยแล้ว ให้ย้ายศพท่านกลับมาบ้านเกิด ที่วัดไก่จ้น ในปี พ.ศ.๒๕๓๓ หลวงปู่ลำภู ท่านได้สิ้นอายุขัยด้วยโรคชรา ที่กุฏิของท่านในวัดใหม่อมตรส ท่านมรณะภาพ เมื่อวันที่ ๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๓เวลา ๒๐.๑๕ น. สิริอายุ ๘๘ ปี ๙ เดือน ๔ วัน สังขารของท่านได้ตั้งบำเพ็ญกุศล ณ ที่ วัดใหม่อมตรส เป็นเวลา ๑ ปี แล้วจากนั้นก็ย้ายมาที่วิหารที่หลวงปู่ลำภู สร้างไว้ที่วัดไก่จ้น จ.อยุธยา ปรากฎว่า สังขารของหลวงปู่ลำภูนั้นไม่เน่าไม่เปื่อย จวบจนปี พ.ศ.๒๕๕๒ คณะศิษย์ส่วนมากเห็นพ้องต้องกันว่า ควรจะจัดการพระราชทานเพลิงศพตามประเพณีนิยม เพราะเป็นการปลงภาระซึ่งคณะศิษย์รับไว้ ยิ่งนานต่อไปคณะศิษย์ก็ลดลงทุกวัน จึงเป็นความสมควรอย่างยิ่ง วันที่พระราชทานเพลิงศพ วันเสาร์ที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๒ เวลา ๑๖.๐๐ น. คำระลึกอนุสรณ์กล่าวถึง หลวงพ่อลำภู คงคฺปัญโญ (พระครูอมรคุณาจาร) ของพระครูพิพัฒนานุกูล เจ้าอาวาสวัดใหม่อมตรส บางขุนพรหม ความว่า "หลวงพ่อเป็นพระมหาเถระสำคัญรูปหนึ่งของวัดใหม่อมตรส ท่านเป็นพระเถระผู้รัตตัญญู ผู้มีคุณูปการสำคัญต่อวัดเป็นเวลายาวนาน คณะสงฆ์วัดใหม่ฯ ให้ความเคารพบูชาอย่างสูงยิ่งมาโดยตลอด พระสงฆ์-สามเณรได้รับการอุปถัมภ์บำรุงอย่างทั่วถึง โดยทุกท่านผู้อยู่ทันสมัยหลวงพ่อมีชีวิตอยู่จะได้พึ่งบารมีของหลวงพ่อทั้งวัด ตอนหลวงพ่อลำภูเป็นรองเจ้าอาวาสและเป็นพระอาจารย์พระครูบริหารคุณวัตร ผู้ช่วยเจ้าอาวาส เมื่อเจ้าอาวาสวัดใหม่ฯ ว่างลงท่านไม่รับตำแหน่งเจ้าอาวาส ยกให้พระครูบริหารเป็น เพราะเห็นว่ายังหนุ่มกว่า ด้วยความที่ท่านมีอัธยาศัยไมตรีจิตที่ดีต่อทุกคน เมื่อได้พบท่านกราบท่านแล้วดูจะเอิบอิ่มใจ เพราะหลวงพ่อมีดีกับตัวที่หายาก และท่านก็ศักดิ์สิทธิ์มีมนต์ขลังจริง มีผู้ศรัทธาเลื่อมใสมาอาบน้ำมนต์รักษาโรคจำนวนมาก พระสงฆ์สามเณรอบอุ่นมาก คราวที่หลวงพ่อยังมีชีวิตอยู่ยิ่งกว่าร่มโพธิ์ร่มไทร ถึงปัจจุบันนี้ก็ยังมีหลายท่านรำลึกเสมอในบุญหลวงพ่อพระครูอมรคุณาจาร (ลำภู คงคฺปัญโญ) หลวงพ่อท่านสร้างความดีไว้มากเพื่อต้องการให้อยู่เลยตาย ตามคำนิยมที่รู้กันว่า อยู่แค่ตายอยู่ได้ทุกคน อยู่เพื่อปวงชนอยู่ได้เลยตาย หรืออยู่เพื่อตัวอยู่ได้แค่สิ้นลม อยู่เพื่อสังคมอยู่คู่ฟ้าดิน" คำบอกเล่ากล่าวถึง หลวงพ่อลำภู คงคฺปัญโญ (พระครูอมรคุณาจาร) ของพระครูพิพัฒนานุกูล เจ้าอาวาสวัดใหม่อมตรส บางขุนพรหม "หลวงพ่อลำภูท่านเป็นพระที่ชอบนั่งวิปัสนาและศึกษไสยเวทย์ ในอดีตชาวบ้านในระแวกวัด เมื่อเจ็บไข้ได้ป่วยมักจะมาหาท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ท่ป่วยเกี่ยวกับโรคฝี หลวงพ่อท่านรักษาได้ฉมังนักแล" ***************************************************************************** สำหรับประวัติวัดไก่จ้น คือถิ่นกำเนิดสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ตั้งอยู่เลขที่ 1 บ้านไก่จ้น ม.10 ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระ นครศรีอยุธยา วัดตั้งตรงข้ามกับวัดสะตือ มีเพียงแม่น้ำกั้น แต่มีสะพานแขวนข้ามไปมาหากันได้ วัดไก่จ้น เป็นวัดเก่าแก่ ไม่มีหลักฐานปรากฏว่าใครเป็นผู้สร้าง ตั้งขึ้นเป็นวัดเมื่อปี ๒๓๗๕ เดิมเรียกว่า วัดบ้านไก่จ้น มีหลักฐานปรากฏในครั้งพระราชทานวิสุงคามสีมาของพระอุโบสถหลังเก่า ความว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ได้พระราชทานวิสุงคามสีมาให้แก่ วัดบ้านไก่จ้น เมื่อคราวพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ ๕ เสด็จประพาสวัดสะตือ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับวัดบ้านไก่จ้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระ ราชดำเนินวัดไก่จ้น เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๒๑ ทรงประกอบพิธียกช่อฟ้าพระอุโบสถ ทรงตัดลูกนิมิต ทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่เกตุพระประธานในพระอุโบสถ ทรงลงพระปรมาภิไธยและพระนามาภิไธยที่แผ่นศิลา ทรงพระสุหร่ายพระประธานในพระอุโบสถและพระประธานจำลองพระประธานพระอุโบสถ และทรงปลูกต้นพิกุลด้านหน้าพระอุโบสถ ๒ ต้น พระราชทานทรัพย์ทำบุญบำรุงวัดจำนวนหนึ่ง ปี ๒๕๒๓ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินวัดไก่จ้น เมื่อวันที่ ๘ เมษายน ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์วิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ทรงเททองหล่อพระพุทธรูปจำลองพระประธานพระอุโบสถ ทรงลงพระนามาภิไธยที่แผ่นศิลา และทรงเสด็จฯเยี่ยมประชาชนที่มาเฝ้าฯรับเสด็จ ต่อมาปี ๒๕๓๐ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าหลานเธอ พระ องค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จแทนพระองค์ไปวัดไก่จ้น เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ทรงประกอบพิธีเปิดวิหารสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ทรงพระราชทานของแก่ผู้มีจิตศรัทธา ทรงปลูกต้นสาละไว้ ๑ ต้น ด้านทิศใต้ของพระอุโบสถ และทรงเสด็จเยี่ยมประชาชนที่มาเฝ้ารับเสด็จด้วย วัดไก่จ้นในปัจจุบันมี พระครูวิสุทธิธรรมากร (ประยูร ปัญญาภรโณ) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส ผู้ทำนุบำรุงดูแลวัดเป็นอย่างดี ***************************************************************************** ประวัติการสร้างพระสมเด็จ หลวงพ่อลำภู คงคฺปัญโญ สำหรับประวัติการสร้างพระสมเด็จของหลวงปู่ลำภู มีดังนี้ นับจากอดีตเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ทางวัดใหม่อมตรส(บางขุนพรหม) ได้ทำพิธีเปิดกรุเจดีย์ภายในวัดอย่างเป็นทางการ ซึ่งภายในเจดีย์บรรจุพระเครื่องที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ได้สร้างไว้ ในช่วงก่อนหน้าจะเปิดกรุนั้นเจดีย์เกิดชำรุดผุพัง สาเหตุเพราะมีคนแอบมาตกพระสมเด็จออกจากเจดีย์ จนทางวัดต้องเปิดเจดีย์นำพระออกมาให้บูชา ซึ่งพระในเจดีย์ก็มีทั้งสภาพที่ดีและชำรุดแตกหัก แต่ทางคณะกรรมการวัดได้คัดเอาพระสภาพที่ดีออกให้บูชา ส่วนพระที่หักหรือชำรุด ทางวัดไม่ได้ให้ห้ความสำคัญนัก หลวงปู่ลำภูท่านจึงได้นำมาเก็บรักษาไว้ที่กุฏิของท่าน ในสมัยนั้น หลวงปู่ลำภู ดำรงตำแหน่งเป็นรองเจ้าอาวาสวัดใหม่อมตรส ท่านเป็นหนึ่งในกรรมการในการเปิดกรุสมเด็จบางขุนพรหม พอผู้คนและบรรดาลูกศิษย์ทราบก็มาขอท่านอยู่บ่อยๆ จนท่านได้ตัดสินใจ นำพระสมเด็จบางขุนพรหมที่หักมาบด แล้วนำมาผสมผงมวลสารผงวิเศษต่างๆที่ท่านมีและจัดเตรียมไว้ นำมาผสมสร้างเป็นพระสมเด็จปี ๒๕๐๒ ทุกพิมพ์จะหลังเรียบทั้งหมด จึงเป็นปฐมบทของการสร้างพระสมเด็จของท่าน ที่วัดบางขุนพรหม(ใหม่อมตรส) แบบพิมพ์พระสมเด็จของพระสมเด็จ หลวงปู่ลำภู จากคำบอกเล่าของ พระครูสุทธิธรรมากร หรือ หลวงตาประยูร ปัญญาภรโณ เจ้าอาวาสวัดไก่จ้น ท่านเป็นบุตรลูกบุญธรรมของหลวงปู่ลำภู) กล่าวว่า ช่างที่แกะพิมพ์พระสมเด็จให้ หลวงปู่ลำภู คือ "นายเสน่ห์" ลูกศิษย์หลวงปู่ลำภู ที่เคยบวชอยู่กับท่านได้แกะพิมพ์พระสมเด็จถวายไว้ โดยล้อแบบพิมพ์เค้าโครงจากพระสมเด็จบางขุพหมกรุเก่า มีre-buildพิมพ์ใหม่ ทั้งหมดมี ๑๑ พิมพ์คือ ๑.พิมพ์ใหญ่เกศทะลุซุ้ม ๒.พิมพ์ใหญ่ ๓.พิมพ์ใหญ่ต้อ ๔.พิมพ์อกครุฑ ๕.พิมพ์ฐานคู่ ๖.พิมพ์ฐานแซม ๗.พิมพ์เส้นด้าย ๘.พิมพ์ปรกโพธิ์ ๙.พิมพ์คะแนน ๑๐.พิมพ์จันลอย ๑๑.พิมพ์ไสยาสน์ ส่วนพิมพ์ไสยาสน์ หลวงปู่ลำภู ท่านสร้างไว้น้อยมากๆ ท่านแจกลูกศิษย์ไปไม่กี่องค์ และพระที่เหลือท่านได้นำลงฝังกรุที่วัดบางขุนพรหม แบบพิมพ์๑๑ พิมพ์ที่แจ้งไว้นี้ บล็อคแม่พิมพ์เป็นแบบกดมือตัดด้วยมือ รอยจารที่ปรากฎที่หลังองค์พระสมเด็จ เท่าที่สังเกตพระที่หลวงปู่ลำภูจารให้นั้น ท่านจะจารแค่เลข ๙ เท่านั้น และต้องเป็นเลข ๙ ไทยเท่านั้นด้วย(อันนี้หลวงตาประยูร confirm) มวลสาร,เนื้อและลักษณะ ของพระสมเด็จ หลวงปู่ลำภู มวลสาร: ทุกครั้งที่มีการสร้างพระสมเด็จ การตำผงกดพิมพ์พระสมเด็จ ลูกศิษย์ของหลวงปู่ลำภูท่านได้ช่วยกันทำทุกครั้งที่มีการจัดทำพระสมเด็จ หลวงปู่ลำภูท่านจะถามว่าวันนี้จะสร้างพระจำนวนเท่าไหร่ จากนั้นท่านก็จะนำเศษพระสมเด็จบางขุนพรหมกรุเก่าที่หักให้โดยประมาณจำนวนในการสร้างของวันนั้ เพื่อนำมาบด แล้วนำมาผสมผงอิทธิเจปถมัง ว่านเกสร108 ดอกไม่ผงขี้ธูปจากรูปเหมือนบูชาสมเด็จโต มวลสารผงวิเศษต่างๆที่ท่านมีและจัดเตรียมไว้ ลักษณะเนื้อพระ: มีหลักอยู่3แบบ คือเนื้อผงสีขาวเนือใบลานเผาสีดำ และเนื้อผงโซนสีเขียว(เข้มหรือเขียวขี้ม้า) ลักษณะด้านหลังพระสมเด็จ:จะมีอยู่3แบบ คือ แบบแรกหลังเรียบแบบสองหลังเป็นแอ่งร่องหลุมและแบบสามหลังเป็นรูปยันต์ลึกลงไป ด้วยพระสมเด็จเนื้อผงที่ท่านสร้างนี้ ในช่วงแรกๆ เป็นการสร้างไปเรื่อยๆ มีเวลาว่างก็เกณฑ์ลูกศิษย์ มาบดและกดพระกันจึงทำให้พระมีความหลากหลายในเนื้อพระ ลักษณะการบรรจุเก็บพระสมเด็จ:การบรรจุพระของท่าน ที่สร้างในวัดใหม่อมตรส มี ๓ แบบคือ ๑.ฝังกรุใต้ต้นโพธิ์: ในยุคแรกๆท่านจะนำพระสมเด็จใส่ตุ่มใบใหญ่ ปิดผนึกฝาตุ่มและนำไปขุดดินฝังที่ใต้ต้นโพธิ์ ตรงบริเวณหน้ากุฏิท่าน ๒.ตุ่มลายมังกร(ใส่น้ำมนต์): ตุ่มมังกรน้ำมนต์นี้จะอยู่บนหน้ากุฏิท่าน ในคราที่ พระลูกวัดและลูกศิษย์มาช่วยที่กดสร้างพระเสร็จ พอพระตากแห้งแล้วบางส่วนพระสมเด็จที่จัดทำ ท่านจะนำไปหย่อนลงในตุ่มน้ำมนต์หน้ากุฏินี้ พร้อมทั้งนำเศษผงพระสมเด็จบางขุนพรหมกรุเก่าที่ตำละเอียดแล้วไปโรยทับอีกที ๓.พระแจกกับมือท่านเอง ไม่มีการลงกรุหรือลงตุ่ม ท่านจะนำมาหยิบแจกให้กับลูกศิษย์ที่มากราบไหว้ท่านและผู้ที่เคารพนับถือ ช่วงเวลาการสร้างพระสมเด็จ หลวงปู่ลำภู ในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๐๒ หลวงปู่ลำภูท่านได้มีการสร้างพระสมเด็จเรื่อยมา ในช่วงปี พ.ศ.๒๕๑๔-๒๕๑๖ หลวงปู่ลำภูท่านได้มีการสร้างพระสมเด็จ พระที่สร้างในยุคนี้ จะมีพิมพ์ใหญ่เกศทะลุซุ้ม พิมพ์ใหญ่ พิมพ์เส้นด้าย พิมพ์จันลอย พิมพ์คะแนน แต่บล็อคแม่พิมพ์จะมีการผสมผสานทั้งสองแบบคือ เป็นบล็อคกดมือแบบเดิมที่มีอยู่แล้ว และแบบบล็อคทองเหลือง(ด้านหลังจะมียันต์ใบพัด ใต้ยันต์มีคำว่า"หลวงพ่อลำภู" กดจมลึกลงไปในเนื้อพระ) ในวงการเรียกว่า พระสมเด็จพิมพ์เกศจรดซุ้มหลังยันต์จม แล้วก็ยังมีเหรียญรูปไข่รุ่นแรกพิมพ์นั่งสมาธิเต็มองค์และเม็ดแตงอีก แล้วหลวงปู่ลำภูยังได้เชิญพระสหายธรรมและพระที่นับถือมาร่วมพุทธาภิเษกที่กุฏิของท่านอีกด้วย ส่วนเหรียญรุ่นที่ ๒ นั้น หลวงปู่ลำภูออกเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๕ เป็นเหรียญรูปไข่ ต่อมาก็สร้างพระสมเด็จ ปี ๒๕๑๖, ปี ๒๕๑๗ นั้นได้ไปออกที่วัดไก่จ้น ในช่วงปี พ.ศ.๒๕๑๙ หลวงปู่ลำภู ท่านได้เปิดกรุพระ(พระยุคปี๒๕๐๒)ในกุฏิของท่าน นำพระออกมาแจกให้ลูกศิษย์ แต่ท่านดูแล้วว่าคงจะไม่พอ จึงได้สร้างพระเพิ่มขึ้นมาอีก และได้ทำตรายางปั๊มที่ด้านหลังเพื่อบอก ปีพ.ศ.มาปั๊มประทับตราไว้ที่พระ ตรายางที่ประทับไวจะเป็นสีแดง เป็นการประทับตราไว้เพื่อจะนำไปลงกรุที่วัดไก่จ้น โดยหมึกสีแดง(เลือดนก)ที่ใช้นี้เป็นหมึกพิมพ์ผ้าที่ลูกศิษย์ท่านนำมาถวาย ***เพราะฉะนั้นพระรุ่นนี้จึงมีทั้งพระสมเด็จปี๒๕๐๒ ฝังกรุไม่ปั๊มตรา และพระสมเด็จปี๒๕๐๒ ฝังกรุปั๊มตรา และพระสมเด็จใหม่ปั๊มตราปี ๒๕๑๙ เอาไว้ ส่วนพระพิมพ์คะแนนนั้นไม่ได้ปั๊มตราเลย *** พระชุดหลังตรายางแดงนี้มีจำนวนน้อยมาก ปัจจุบันพบหาได้ยาก ในช่วงปี พ.ศ.๒๕๒๑ หลวงปู่ลำภู ท่านได้จัดงานกฐินและผ้าป่าสามัคคีไปที่วัดไก่จ้น เพื่อสมทบทุนสร้างอุโบสถ ซึ่งในครั้งนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินยังวัดไก่จ้น เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๒๑ ทรงประกอบพิธียกช่อฟ้าอุโบสถ ทรงตัดลูกนิมิต ทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่เกศพระประธานในอุโบสถ ทรงลงพระปรมา ภิไธยและพระนามาภิไธยที่แผ่นศิลา ทรงพระสุหร่ายพระประธานในพระอุโบสถ และพระประธานจำลองพระประธานอุโบสถ และทรงปลูกต้นพิกุลด้านหน้าอุโบสถ ๒ ต้น รวมถึงพระราชทานทรัพย์ร่วมทำบุญบำรุงวัดด้วย ครั้งนี้ท่านได้นำมวลสารผงสมเด็จบางขุนพรหมมาสร้าง พระสมเด็จพิมพ์ใหญ่จัมโบ้ โดยออกที่วัดบางขุนพรหม ด้านหลังพระปั๊มยันต์หมึกสีน้ำเงินเขียนว่า"อนุสรณ์สร้างโบสถ์วัดไก่จ้น" หลวงปู่ลำภูวัดใหม่อมตรส สร้าง และพิมพ์สมเด็จให้ประชาชนบูชาส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งนำมาฝังใต้ฐานพระประธานอีกเช่นเคย จากนั้นในภายหลังจากที่หลวงปู่ลำภูท่านมรณะภาพแล้ว ได้มีการเปิดกรุใต้ฐานพระประธานแล้ว นำพระออกมาส่วนหนึ่งเพื่อนำพระออกมาให้ประชาชนบูชาเมื่อปี พ.ศ.2542 ในช่วงปี พ.ศ.๒๕๒๑ หลวงปู่ลำภู ท่านสร้างแค่เหรียญรุ่นเดียว เป็นเหรียญทรงกลมด้านหน้ามีรูปหลวงปู่ลำภูครึ่งองค์ ส่วนด้านหลังมีอักษรย่อพระปรมาภิไธย และเขียนว่าที่ระลึกสร้างพระอุโบสถวัดไก่จ้น ปี ๒๕๒๑ ในช่วงปี พ.ศ.๒๕๒๒ หลวงปู่ลำภู ท่านได้สร้างพระสมเด็จขึ้นมาเพียงรุ่นเดียวพิมพ์เดียวคือ "พิมพ์ใหญ่" เท่านั้น ด้านหน้าโรยผงกรุบางขุนพรหม ส่วนด้านหลังเป็นตัวหนังสือนูนว่า "วัดไก่จ้น ๒๕๒๒" และมีอักษรย่อพระปรมาภิไธย ส่วนปี พ.ศ. ๒๕๒๔ นั้น หลวงปู่ลำภูไม่ได้สร้างพระเนื้อผงเลย ท่านสร้างแค่เหรียญรูปไข่เนื้ออัลปาก้าหน้าตรง รอบเหรียญมีจุดไข่ปลา หลังเหรียญก็จุดไข่ปลารอบเหรียญเช่นกัน และเขียนว่าที่ระลึกทำบุญอายุ 80 ปี พ.ศ.๒๕๒๔ ส่วนพระบูชารูปเหมือนหลวงปู่ลำภูนั้น ทางวัดไก่จ้นได้สร้างถวายหลวงปู่ลำภู จึงถือว่ารุ่นนี้คือ "รุ่นสุดท้ายของหลวงปู่ลำภู" ขอขอบคุณ nukro09 สำหรับข้อมูลประวัติหลวงปู่ลำภู วัดใหม่อมตรส ครับ สำหรับองค์นี้เป็นพิมพ์บล็อคกดด้วยเครื่องหลังยันต์จม ครับ นำสิ่งดีๆมาแบ่งปัน ขอบคุณมากครับ
o หากมีบัญชี Facebook สามารถใช้ในการสมัครสมาชิกได้
o กรอกอีเมล/เบอร์โทรศัพท์ และรหัสผ่านที่ใช้เข้า Facebook
o กด “ตกลง” ก็จะเป็นสมาชิกเว็บไซด์พระพันธุ์ทิพย์ดอทคอม ได้ทันที
o ใส่ชื่ออีเมล และ รหัสผ่าน และ กดตกลง
o เข้าไปที่อีเมลที่ได้ลงทะเบียนไว้ ตรวจสอบอีเมลจาก prapantip@gmail.com เมื่อรับอีเมลแล้วให้กดที่ลิงค์ที่อยู่ในอีเมล เพื่อเข้าระบบ (บางครั้งอีเมล อาจไม่ได้อยู่ที่ Inbox กรุณาตรวจสอบที่ Junk Mail)
o ในครั้งต่อไป สามารถเข้าระบบ โดยกรอกอีเมล และ รหัสผ่าน ที่ท่านได้ลงทะเบียนไว้
ต้อง เห็นรายละเอียดชัดเจน ทุกด้าน ทั้งองค์
ควร ลงรูปทุกด้าน (หน้า หลัง ด้านข้าง ด้านบน ด้านล่าง)
ห้าม ลงรูปไม่คมชัด ไม่ละเอียด เบลอ
ห้าม วางพระเครื่อง รวมหลายๆ องค์ ในภาพเดียว
ห้าม ลงรูปพระไม่ซ้ำกันใน 1 ประกาศ
สิ่งสำคัญ: ห้ามลงพระซ้ำกับพระที่เคยลงประกาศไปแล้ว และยังแสดงอยู่ในหน้าเว็บไซด์
สินค้าที่ห้ามลงประกาศ: ชุดพระในคอ, งานทำบุญ , ข่าวพระเครื่อง, โฆษณาร้านพระ, ใบรับประกันร้านพระ, ข่าวสารพระเครื่อง, งานประกวด หรือ สินค้าอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง หากพบว่าลงพระไม่ถูกต้อง ไม่ตรงตามประเภท หรือ ลงสินค้าที่ไม่เกี่ยวข้อง ทางเว็บไซด์พระพันธุ์ทิพย์ดอทคอม ขอสงวนสิทธิ์ในการลบรายการพระนั้นๆ ออก โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
อ่านเพิ่มเติมที่ ลงรูปพระเครื่องแบบไหน ที่ทำให้คนเข้าชมเยอะ
- ประเภทพระ (เลือกประเภทพระ 1 รายการ) ดูรายละเอียดประเภทพระ
- ชื่อพระ
- ราคา (เฉพาะตัวเลขเท่านั้น)
- รายละเอียดพระ
- รูปพระ (ลงรูปพระได้ 1-5 รูป)
- รูปถ่ายบัตรประชาชน+หน้าสมุดบัญชีธนาคาร 1 รูป
- พื้นที่/จังหวัด
- ผู้ขาย (ชื่อ/นามสกุล)
- เบอร์โทรศัพท์ (เฉพาะตัวเลขเท่านั้น)
- Line id
สถานะ | รายละเอียด |
---|---|
รอตรวจสอบ | อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล |
ไม่ผ่านการตรวจสอบ | เนื่องจาก ภาพไม่ชัด / ข้อมูลไม่ครบ /ผิดเงื่อนไข (เช่น ลงพระซ้ำ) เมื่อไม่ ผ่านการตรวจสอบจะลบประกาศออกทันที หากต้องการแก้ไขหรือเพิ่มเติมให้ลงใหม่เท่านั้น |
กำลังใช้งาน | พระแสดงหน้าเว็บไซด์แล้ว จนถึงวันที่ ..../...../..... |