ต้องตรวจสอบพระ และ ตกลงเงื่อนไขการรับประกัน ให้เรียบร้อย
หากไม่เคยติดต่อ หรือรู้จักผู้ให้เช่ามาก่อน
แนะนำให้นัดดูองค์จริง
ตะกรุด 108 หลวงพ่อสุด วัดกาหลง เนื้อสามกษัตริย์ ถักเชือก
หลวงพ่อสุด ท่านเป็นชาว อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด เกิดจากตระกูลชาวนา บิดาชื่อ นายมาก มารดาชื่อ นางอ่อนศรี เกิดวันที่ 7 พฤษภาคม 2445 ตรงกับ วันพุธ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 ปีขาล ณ บ้านค้อใหญ่ ตำบลคำไฮ อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด ในแผ่นดินของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีพี่น้อง 3 คน คือ 1.นางบุตรดี มูลลิสาร 2.นางสาวหวด สัตตัง 3.พระครูสมุทรธรรมสุนทร ต่อมาเมื่ออายุ 16 ปี หลวงพ่อได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2461 ที่วัดกลางพนมไพร อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด พระครูเม้า เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาได้เป็นอาจารย์องค์สำคัญที่หลวงพ่อให้ความเคารพนับถืออย่างมาก ก่อนหน้าที่จะบวชเณร หลวงพ่อได้รับวิทยฐานะสำเร็จชั้นประถมปีที่ 3 จากโรงเรียนวัดคำหยาด ต.คำไฮ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ดบวชเณรได้ระยะหนึ่ง หลวงพ่อก็เดินทางรอนแรมจากร้อยเอ็ดมุ่งเข้าสู่กรุงเทพ เพื่อแสวงหาความรู้ทางธรรมจากสำนักเรียนในกรุงเทพ เข้าใจว่า หลวงพ่อคงจะมาบวชเป็นพระที่วัดกาหลง นี่เอง ทั้งนี้เพราะใน พ.ศ. 2481อายุได้ 36สอบได้นักธรรมชั้นเอก สำนักเรียนวัดกาหลง ด้านการปกครอง พ.ศ. 2478 เป็นเจ้าอาวาสวัดกาหลง พ.ศ. 2479เป็นเจ้าคณะหมวด พ.ศ. 2484เป็นเจ้าคณะตำบล พ.ศ. 2495เป็นสาธารณูปการอำเภอ ด้านการศึกษา พ.ศ. 2482เป็นผู้อุปการะโรงเรียนวัดกาหลง พ.ศ. 2485 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม พ.ศ. 2495 เป็นกรรมการการตรวจธรรมสนามหลวง ด้านสมณศักดิ์ พ.ศ. 2490 เป็นพระครูสัญญบัตร ชั้นตรี พ.ศ. 2511 เป็นพระครูสัญญบัตร ชั้นโท พ.ศ. 2517 เป็นพระครูสัญญบัตรชั้นเอก พระครูสมุทรธรรมสุนทร ถึงแม้ท่านมิใช่คนสมุทรสาคร แต่ท่านก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของชาวทะเลเลือดสมุทร เพราะคนในแถบ จ.สมุทรสาครท่านก็ได้เมตตาช่วยเหลือมาตลอด และเป็นที่รักของลูกศิษย์ลูกหา ยันต์ตะกร้อ ยันต์ตะกร้อ เป็นยันต์ที่หลวงพ่อสุดได้ปลุกเสกขึ้นมา โดยตอนปลุกเสกนั้นหลวงพ่อท่านได้ลงคาถาอาคมโดยใช้ภาษาขอม เขมร และลาว โดยที่บทสวดที่ท่านสวดมีใจความว่า จะกระสุนก็ดี จะไฟก็ดี ก็ไม่สามารถจะทำอะไรเนื้อหนัง และกระดูกได้ นอกจากนี้ยันต์ตะกร้อยังเป็นที่กล่าวขานและเป็นที่นิยมกันใน ชาว จ.สมุทรสาคร อีกด้วย พระอาจารย์ของหลวงพ่อสุด ตอนที่ท่านไปศึกษาหาความรู้ทางพระพุทธศาสนาและวิชาอาคมในที่ต่างๆ จากพระอาจารย์หลายท่าน อาทิ หลวงปู่เม้า วัดกลางพนมไพร (วัดกลางอุดมเวทย์ อำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด ในปัจจุบัน) (พระที่บวชให้ท่านในสมัยตอนเป็นเณร) หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ(สำหรับหลวงพ่อรุ่ง ในปี 2484 หลวงพ่อสุดเป็นเจ้าคณะตำบล หลวงพ่อรุ่งได้จัดเหรียญรุ่นแรกของท่านหลวงพ่อสุดได้อยุ่ในการร่วมสร้าง เหรียญนี้ด้วยเช่นกัน) หลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม (เป็นพระที่หลวงพ่อสุดนับถือมาก) เป็นต้น ในสมัยที่หลวงพ่อสุดนั้นยังมีสังขารอยู่ ท่านได้ร่วมกิจนิมนต์ หลายพิธีไม่ต่ำกว่า 100 ครั้ง หรือมากกว่า เช่นพิธี ปลุกเสกพระพุทธ 25 ศตวรรษ และในทางหนึ่งท่านคือผู้เมตตา ให้ของขลังแก่ตี๋ใหญ่ จอมโจรชื่อดัง ในช่วงปี 251 กว่า -2524 มรณภาพ หลวงพ่อสุด ท่านเป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย รักสันโดษมีความเป็นอยู่เรียบง่าย ยึดพรหมวิหารและสังคหวัตถุธรรมเป็นหลักปฏิบัติ ได้บำเพ็ญศาสนกิจอันเป็นหิตานุหิตประโยชน์เพื่อความเจริญรุ่งเรือง เพื่อความวัฒนาสถาพรแก่พระพุทธศาสนาและปวงชนอย่างแท้จริง พ.ศ.2521 ได้อาพาธด้วยโรค โพรงจมูกอักเสบ ได้เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร หลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้ว ได้กลับมาปฏิบัติศาสนกิจตามปกติ วันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ.2524 หลวงพ่อสุด ท่านได้อาพาธด้วยโรคกระเพาะอาหารอักเสบ ได้เข้าพักรักษาตัวและทำการผ่าตัดกระเพาะที่โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล ถนนพหลโยธิน กทม. หลังจากออกจากโรงพยาบาลเปาโลแล้ว ได้กลับมาปฏิบัติศาสนกิจ ณ วัดกาหลง ตามปกติ และเนื่องด้วยหลวงพ่อชราภาพมาก สุขภาพไม่แข็งแรง ร่างกายอ่อนเพลีย เดินไม่สะดวก เจ็บออดๆแอดๆ เรื่อยมา ครั้น ถึง วันอาทิตย์ ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ.2526 ตรงกับ ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 9 ปีกุน เวลา 13.15 น. หลวงพ่อสุด สิริธโร ก็ได้ถึงแก่มรณภาพด้วยอาการสงบ สิริรวมอายุได้ 81 ปี 3 เดือน 8 วัน ยังมาซึ่งความเศร้าโศกและอาลัยรักของบรรดาศิษยานุศิษย์และผู้ใกล้ชิดทั้งใกล้และไกลเป็นอย่างยิ่ง พระราชทานเพลิงศพ มีการเผาศพอยู่กรณีหนึ่งซึ่งเป็นข่าวดังทางหน้าหนังสือพิมพ์รายวันหลายฉบับ เกี่ยวกับศพของพระครูสมุทรธรรมสุนทร หรือ "หลวงพ่อสุด อดีตเจ้าอาวาสวัดกาหลง เกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเคยเป็นอาจารย์ของ "ตี๋ใหญ่" ที่มีพิธีพระราชทานเพลิงศพไปเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2545 ที่ผ่านมาที่วัดกาหลง เนื้อข่าวน่าสนใจที่ว่าศพของท่านโดนไฟเผาไหม้ไม่หมด แม้ว่าร่างจะเป็นเนื้อหนังกระดูกเผาหมดแล้วแต่กระดูกหรืออัฐิยังอยู่ในภาพที่สมบูรณ์มาก ไม่บิ่นหรือแตกร้าวเป็นชิ้นๆ แบบการเผาศพท่าวไปเลย ทำให้หลายคนไม่อยากเชื่อ จึงต้องไปพิสูจน์ให้เห็นกับตา ที่มาแห่งเหตุอัศจรรย์นี้มีนิมิตเกิดแก่พระศิษย์เอกของหลวงพ่อสุดรูปหนึ่งซึ่งปัจจุบันท่านรักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดกาหลง ท่านเล่าว่า "ก่อนหน้าที่จะเผาประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมาอาตมาฝันเห็นหลวงพ่อสุดมาบอกว่าไม่มีใครเผาท่านได้นอกจากตัวท่านเอง อาตมาเลยถามกลับไปว่า แล้วจะให้ทำอย่างไร ท่านบอกให้จัดดอกไม้จันทน์มาบายศรีขอขมาไว้และให้อาตมาเป็นคนจุดไฟเผา โดยให้อาตมาจับมือท่านเผาร่างท่านเอง อาตมาก็นำเรื่องความฝันไปเล่าให้ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดฟัง ต่อมาในวันพระราชทานเพลิงศพ ช่วงพิธีเผาจริงเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาครท่านมาเป็นประธานจุดไฟ ปรากฏว่าเกิดเหตุประหลาดขึ้นเมื่อไฟที่จุดกับดอกไม้จันทน์ดับลงเฉยๆ ต้องวางเอาไว้อย่างนั้น อาตมาเห็นจึงเข้าไปจุดไฟเผาตามที่ฝันเอาไว้ "ปกติแล้วศพโดยทั่วไปใช้เวลาเผาประมาณ 2 ชั่วโมงก็ไหม้หมด แต่นี่เวลาเผาท่านก็ใช้น้ำมันเชื่อเพลิง ระดับไฟร้อนมากประมาณ 300 องศา ขณะที่เผาก็จะมีเจ้าหน้าที่ไปกลับร่างท่าน แต่เมื่อได้เวลาราไฟ ปรากฏว่ายังเห็นร่างของท่านยังอยู่เป็นโครงกระดูกทั้งโครงทั้งที่เผามานาน" คุณอุบลรัตน์ ใยไหม กำนันตำบลกาหลง ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า "ก่อนวันประชุมเพลิงท่าน คณะกรรมการก็ได้เตรียมงานแต่เนิ่นๆ โดยได้เคลื่อนสรีระร่างของท่านมา หลวงพ่อคล้ายคนนอกหลับ ร่างท่านมีแต่หนังหุ้มกระดูกไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า จีวรเก่าแต่ก็ไม่เปียกคราบน้ำเหลืองเลย ที่เผาท่านเป็นคนสุดท้าย เมื่อเจ้าหน้าที่เปิดให้ดูก็เห็นภาพที่ว่าท่านยังเป็นโครงกระดูกอยู่นะ พี่ก็แปลกใจเลยตะโกนบอกว่า "หลวงปู่ไม่ไหม้" แล้วชาวบ้านก็วิ่งไปดู เพราะชาวบ้านก็ยังไม่กลับ เขาจะรอดูที่ว่ากันว่าหลวงปู่จะเผาไม่ไหม้จะเป็นจริงมั้ย เขาก็เลยอยากพิสูจน์ แล้วก็เป็นจริง หนังท่านไหม้แต่กระดูกท่านยังไม่หลุด" สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ชาวบ้านละแวกนวัดและประชาชนทั่วงไปที่สนใจมั่นใจมากขึ้นว่าเป็นปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อสุดเพราะท่านสำเร็จวิชาอยู่ยง คงกระพันชาตรีศาสตร์ลี้ลับที่ทำให้ฟังขารของท่านไม่อาจเผาให้ไหม้หมดอย่างคนธรรมดาทั่วไปได้... ปาฏิหารย์ยันต์ตะกร้อและเสือเผ่น ตามประวัติของหลวงพ่อสุดแห่งวัดกาหลง จ.สมุทรสาคาเจ้าตำรับยันต์ตะกร้อและเสือเผ่น ท่านเป็นชาวอำเภอพนมไพร จ.ร้อยเอ็ด เกิดในตระกูลชาวน้าในสมัยราชกาลที่ 5 ท่านบวชเป็นสามเณรเมื่ออายุ 16 ปี ที่วัดกลางพนมไพร จ.ร้อยเอ็ด แล้วเดินทางรอนแรมจากร้อยเอ็ดไปแสวงหาวิชาและความรู้ในทางธรรมตามที่ต่างๆ จนกระทั่งได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดกาหลง จนมรณภาพ เรื่องราวของหลวงพ่อสุดเกี่ยวกับพลังอำนาจจิตที่อยู่ในรูปการสักยันต์ตะกร้อปละเสือแผ่นนั้นโด่งดังมากแม้แต่ "ตี๋ใหญ่" ขุนโจรชื่อดังที่เขาลือกันว่าหนังเหนียวและแคล้วคลาดอยู่ตลอดยังนับถือ ไปมาหาสู่หลวงพ่ออยู่บ่อยๆ "ตี๋ใหญ่" มีของดีคือมีผ้ายันต์กับตะกรุดของหวงพ่อสุดไว้ป้องกันตัว ขนาดถูกตำรวจเป็นร้อยล้อมจับก็ยังหนีเอาตัวรอดไปได้ จนใครๆ ลือกันว่าตี๋ใหญ่มีวิชาล่องหนหายตัวได้! มีเรื่องเล่าถึงวันที่ "ตี๋ใหญ่" สิ้นชื่อ คือวันนั้นก่อนที่จะหนีไปหลบซ่อนตัว "ตี๋ใหญ่" ให้ลูกน้องขับรถพามาหาหลวงพ่อสุดที่วัดกาหลง แต่มาแล้วไม่พบหลวงพ่อจึงกลับออกมา ระหว่างที่รถวิ่งออกมาก็โดนถล่มจากเจ้าหน้าที่ทั้งสองข้างทาง นับไม่ถ้วนว่ากี่นัด จะเห็นว่าคนเราเมื่อดวงขาดมันก็ต้องมีอันเป็นไป และเหตุที่ตี๋ใหญ่มาหาลวงพ่อสุดนั้นเป็นเพราะว่าพวงพระและตะกรุดของตี๋ใหญ่ หายไปก็เลยจะมาขอใหม่จากหลวงพ่อ จึงมาพบจุดจบในวันนั้น หลายคนกล่าวว่าถ้าผ้ายันต์กับตะกรุดยังอยู่ ตี๋ใหญ่อาจจะยังไม่ตาย แต่ถึงอย่างไรตี๋ใหญ่ก็ก่อกรรมทำเข็ญไว้มากพลังอำนาจจิตหรืออิทธิฤทธิ์ใดๆ ก็มาอยู่ "เหนือกรรม" ไม่ได้ สุดท้ายตี๋ใหญ่ก็ต้องจบชีวิตลงท่ามกลางการสาปแช่งของผู้คน และใครจะรู้ว่านั้นเป็นสิ่งที่หลวงพ่อสุดกำหนดให้เป็นไปด้วยหรือไม่? ก็ยังมีเรื่องเล่าถึงอดีตนาวิกโยธินคนหนึ่งที่ได้เครื่องรางของหลวงพ่อสุดไปเป็นเหรียญเสือเผ่นและรอยสัก ขณะที่รับราชการอยู่เขาถูกส่งไปปราบผู้ก่อการร้ายที่ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ในปี พ.ศ.2519 แล้วโดนถล่มขณะอยู่บนรถจีเอ็มซี เพื่อนคนหนึ่งถูกยิงจนตาตุ่มหายไปทั้งแถบ ส่วนตัวเองถูกยิงห้านัด กระสุนเข้ากลางหลังตรงยันต์พอดี เสื้อทะลุเป็นรูแต่กระสุนกลับไม่เข้าเนื้อและไม่มีบาดแผลเพียงแต่เป็นรอยจ้ำๆ เท่านั้น ส่วนอีกคนเป็นศิษย์หลวงพ่อสุดเหมือนกันคนนี้เป็นโรคที่ตา ต้องเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลศิริราช ระหว่างการรักษาต้องฉีดยาเพื่อผ่าตัด เข้าใจว่าเป็นยาชา แต่พอฉีดเข็มฉีดยากลับไม่เข้าเนื้อ เพราะคนนี้หลวงพ่อสุดสักน้ำมันครอบไว้ ผลสุดท้ายต้องมานิมนต์หลวงพ่อสุดไปโรงพยาบาลเพื่อทำพิธีถอน คนป่วยจึงได้รับการฉีดยาและผ่าตัดเรียบร้อย หลวงพ่อสุด วัดกาหลง ปัจจุบันทางวัดกาหลง จ.สมุทรสาคร ได้นำร่างที่เป็นโครงกระดูกของหลวงพ่อสุดบรรจุไว้ในโลงแก้วตั้งให้ประชาชนไปกราบนมัสการอยู่ที่ชั้นสองของศาลาการเปรียญภายในวัดซึ่งทุกวันจะมีประชาชนและลูกศาย์ที่เลื่อมใสแวะเวียนไปกราบเสรีระร่างของท่านไม่ขาดสาย นำของแท้ๆของดีๆมีคุณค่ามาฝากครับ ขอบคุณมากครับ
o หากมีบัญชี Facebook สามารถใช้ในการสมัครสมาชิกได้
o กรอกอีเมล/เบอร์โทรศัพท์ และรหัสผ่านที่ใช้เข้า Facebook
o กด “ตกลง” ก็จะเป็นสมาชิกเว็บไซด์พระพันธุ์ทิพย์ดอทคอม ได้ทันที
o ใส่ชื่ออีเมล และ รหัสผ่าน และ กดตกลง
o เข้าไปที่อีเมลที่ได้ลงทะเบียนไว้ ตรวจสอบอีเมลจาก prapantip@gmail.com เมื่อรับอีเมลแล้วให้กดที่ลิงค์ที่อยู่ในอีเมล เพื่อเข้าระบบ (บางครั้งอีเมล อาจไม่ได้อยู่ที่ Inbox กรุณาตรวจสอบที่ Junk Mail)
o ในครั้งต่อไป สามารถเข้าระบบ โดยกรอกอีเมล และ รหัสผ่าน ที่ท่านได้ลงทะเบียนไว้
ต้อง เห็นรายละเอียดชัดเจน ทุกด้าน ทั้งองค์
ควร ลงรูปทุกด้าน (หน้า หลัง ด้านข้าง ด้านบน ด้านล่าง)
ห้าม ลงรูปไม่คมชัด ไม่ละเอียด เบลอ
ห้าม วางพระเครื่อง รวมหลายๆ องค์ ในภาพเดียว
ห้าม ลงรูปพระไม่ซ้ำกันใน 1 ประกาศ
สิ่งสำคัญ: ห้ามลงพระซ้ำกับพระที่เคยลงประกาศไปแล้ว และยังแสดงอยู่ในหน้าเว็บไซด์
สินค้าที่ห้ามลงประกาศ: ชุดพระในคอ, งานทำบุญ , ข่าวพระเครื่อง, โฆษณาร้านพระ, ใบรับประกันร้านพระ, ข่าวสารพระเครื่อง, งานประกวด หรือ สินค้าอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง หากพบว่าลงพระไม่ถูกต้อง ไม่ตรงตามประเภท หรือ ลงสินค้าที่ไม่เกี่ยวข้อง ทางเว็บไซด์พระพันธุ์ทิพย์ดอทคอม ขอสงวนสิทธิ์ในการลบรายการพระนั้นๆ ออก โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
อ่านเพิ่มเติมที่ ลงรูปพระเครื่องแบบไหน ที่ทำให้คนเข้าชมเยอะ
- ประเภทพระ (เลือกประเภทพระ 1 รายการ) ดูรายละเอียดประเภทพระ
- ชื่อพระ
- ราคา (เฉพาะตัวเลขเท่านั้น)
- รายละเอียดพระ
- รูปพระ (ลงรูปพระได้ 1-5 รูป)
- รูปถ่ายบัตรประชาชน+หน้าสมุดบัญชีธนาคาร 1 รูป
- พื้นที่/จังหวัด
- ผู้ขาย (ชื่อ/นามสกุล)
- เบอร์โทรศัพท์ (เฉพาะตัวเลขเท่านั้น)
- Line id
สถานะ | รายละเอียด |
---|---|
รอตรวจสอบ | อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล |
ไม่ผ่านการตรวจสอบ | เนื่องจาก ภาพไม่ชัด / ข้อมูลไม่ครบ /ผิดเงื่อนไข (เช่น ลงพระซ้ำ) เมื่อไม่ ผ่านการตรวจสอบจะลบประกาศออกทันที หากต้องการแก้ไขหรือเพิ่มเติมให้ลงใหม่เท่านั้น |
กำลังใช้งาน | พระแสดงหน้าเว็บไซด์แล้ว จนถึงวันที่ ..../...../..... |