พระเครื่องล้ำค่า หลวงพ่อเส้ง วัดแหลมทราย จังหวัดสงขลา

โดย ศาล มรดกไทย

พระดีพุทธคุณสูงราคาย่อมเยาว์ ฉบับนี้ขอนําเสนอ พระปิดตาพระราชรัตนโมลี (หลวงพ่อเส้ง) วัดแหลมทราย รุ่นที่สอง แห่งจังหวัดสงขลา ซึ่งวัตถุมงคลของท่านที่โด่งดังมีราคาสูงได้แก่พระกริ่งแหลมทราย พระปิดตา  (พระโสฬสธาตุมงคล) เนื้อทองเหลืองผสมรุ่นแรก เหรียญหล่อพิมพ์ซุ้มกอ ด้วยวัตถุมงคลทั้งสามอย่างเป็นที่ต้องการของชาวจังหวัดสงขลาและนักสะสมพระเครื่องทั่วประเทศ เพราะเหตุที่มีพุทธคุณสูงส่งทั้งทางเมตตามหานิยม แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี เป็นของดีของภาคใต้ที่มีชื่อเสียงมาเนิ่นนานแล้ว


ประวัติหลวงพ่อเส้ง และ การสร้างวัตถุมงคล


 

ท่านเกิดที่ ตําบลท่าหิน อําเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ.2429 เมื่อท่านเติบโตจนเข้าสู่วัยหนุ่มจึงได้อุปสมบทที่วัดเสื้อเมือง โดยมีพระอธิการเอียดเจ้าอาวาส วัดเสื้อเมืองเป็นพระอุปัชฌา ได้รับฉายาว่า “ติสสโร” หลังจากบวชเรียนแล้วท่านได้เดินทางไปศึกษาวิชาอาคมและการนั่งกรรมฐาน จากพระเกจิอาจารย์ทางภาคใต้หลายๆ องค์เช่น หลวงพ่อแก้ว วัดแหลมทราย หลวงพ่ออั้น วัดไทรงาม พระครูพรหมเวชวุฒิคุณ วัดโคก ฯลฯ หลังจากนั้น ท่านยังได้เดินทางมาเรียนเพิ่มเติมที่วัดอรุณราชวราราม กรุงเทพฯ

เมื่อท่านศึกษาวิชาแขนงต่างๆ จนเชี่ยวชาญท่านจึงได้กลับมาจําพรรษาที่วัดแหลมทราย หลังจากท่านมาอยู่ไม่นาน ท่านได้เป็นที่รักและเคารพจากชาวบ้านท้องถิ่นจนเมื่อตําแหน่งเจ้าอาวาสวัดแหลมทรายว่างลง ท่านจึงได้รับเป็นเจ้าอาวาสเมื่อปี พ.ศ.2472

หลังจากนั้นท่านสร้างความเจริญให้กับวัดแหลมทรายเป็นที่เคารพจากชาวบ้าน ทั้งทางด้านวิชาอาคม เป็นที่พึ่งเมื่อยามที่เกิดสงครามและสร้างความมหัศจรรย์ในการที่ลูกระเบิดจํานวนมากมายที่ถูกทิ้งลงมาจากเครื่องบินไม่สามารถทําอันตรายทั้งวัดและประชาชนที่อยู่ภายในวัดแหลมทรายได้ ทั้งท่านยังได้สร้างวัตถุมงคล เช่น พระปิดตารุ่นแรก ฯลฯ แจกให้ประชาชนไว้คุ้มครองตัว โดยได้ทําพิธีใหญ่นิมนต์พระเกจิอาจารย์ทางสายใต้หลายๆ องค์ ที่มีความสนิทสนมกับหลวงพ่อท่านมาร่วมในการปลุกเสกอย่างเข้มขลัง

สําหรับทางด้านสมณศักดิ์ท่านได้รับเลื่อนตําแหน่งขึ้นเรื่อยๆ จนได้เป็นเจ้าคณะจังหวัดสงขลาและได้รับสมณศักดิ์สุดท้ายที่พระราชรัตนโมลี เมื่อถึงปี พ.ศ.2516 ท่านได้มรณภาพอย่างสงบที่วัดแหลมทราย สิริรวมอายุได้ 87 ปี

การสร้างพระปิดตาวัดแหลมทรายรุ่นที่สอง

ด้วยเหตุพระปิดตารุ่นแรกที่สร้างเมื่อปี พ.ศ.2484 ในช่วงสงครามอินโดจีนได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการของบรรดาลูกศิษย์ซึ่งมีจํานวนน้อย จนเมื่อปี พ.ศ.2504 ท่านจึงได้สร้างขึ้นมาอีกหนึ่งรุ่น นับเป็นรุ่นที่สองโดยมีขนาดใกล้เคียงกับรุ่นแรก ลักษณะเป็นพระปิดตายกมือขึ้นปิดหน้าหนึ่งคู่ และโยงลงมาปิดด้านก้นอีกหนึ่งคู่ ด้านหลังมีอักขระขอมตัว “ยะ” หล่อจมลึกอยู่ชัดเจน เป็นเนื้อทองเหลืองผสมทั้งหมด จํานวนการสร้างประมาณหนึ่งหมื่นกว่าองค์

ปัจจุบันพระปิดตารุ่นสองของท่านราคายังอยู่หลักพันต้นๆ และยังหาได้ไม่ยากน่าสะสมเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะมองด้านพุทธคุณที่เพียบพร้อมไปทุกๆ ทาง หรือจะสะสมเพื่อที่เอาไว้ศึกษาในเนื้อพระทองเหลืองผสมยุคเก่า ทั้งยังมีขนาดเล็กให้เด็กหรือสุภาพสตรีใส่ก็ดีเป็นอย่างยิ่ง สรุปแล้วน่าสะสมก่อนที่ราคาในอนาคตพระปิดตารุ่นสองของท่านจะสูงไปมากกว่านี้

พระเครื่องล้ำค่า ปีที่ 7 ฉบับ 84 สิงหาคม 2552 หน้า 26