แม็กกาซีนพระ บทความและสาระความรู้

เหรียญหล่อเจ้าคุณเที่ยง วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพ
20 เมษายน 2563    3,679

เหรียญหล่อเจ้าคุณเที่ยง วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพ


โดย ศาล มรดกไทย
 

ของดีที่น่าเสาะหาบูชา สร้างโดยท่านเจ้าอาวาสวัดระฆังองค์ปัจจุบัน ตั้งแต่ท่านบวชเป็นพระภิษุสงฆ์เพียงไม่นาน ทั้งยังได้รับการปลุกเสกจากพระเกจิอาจารย์ในยุคสมัยนั้น เช่น หลวงปู่นาค หลวงปู่หิน วัดระฆัง และยังได้นําไปร่วมในพิธีปลุกเสกพระเครื่อง ฉลอง 25 พุทธศตวรรษ นับเป็นหนึ่งในพระเครื่องสืบเชื้อสายของสมเด็จพุฒาจารย์โต วัดระฆัง ที่ควรเก็บสะสมเป็นยิ่งนักก่อนที่อนาคตราคาจะไปไกลกว่านี้ ด้วยเป็นวัตถุมงคลที่สร้างจํานวนน้อยและหาได้ยากนั่นเอง


ประวัติเจ้าคุณเที่ยง

พระธรรมธีรราชมหามุนี (เที่ยง) ท่านเป็นชาวจังหวัดนครราชสีมา เกิดที่บ้านดอนชมพู ตําบลบึง อําเภอโนนสูง ในวันที่ 16 เมษายน 2478 โยมบิดาและมารดา ชื่อนายโปย นางสี ชูกระโทก ในวัยเยาว์ได้ร่ำเรียนที่โรงเรียนประชาบาลวัดดอนชมพู หลังจากนั้นโยมบิดาจึงนําตัวมาฝากไว้ที่วัดสมอราย ตําบลหนองจะบก อําเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา โดยได้รับการบวชเป็นสามเณร มีพระครูพรหมวิหารีเป็นพระอุปัชฌาย์ ด้วยความที่มีใจชื่นชอบในพระพุทธศาสนา พระอาจารย์ของท่านจึงส่งตัวให้มาศึกษาวิชาเพิ่มเติมที่วัดระฆัง ด้วยความมุ่งมั่นในการเรียนพระปริยัติธรรม จึงทําให้ท่านมีความรู้เชี่ยวชาญตั้งแต่ยังเป็นสามเณร

จนเมื่อท่านมีอายุครบบวชได้เข้าพิธีบรรพชาเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่วัดบ้านดอนชมพู วัดในบ้านเกิดของท่านโดยมีพระครูพินิจยติกรรม วัดใหม่สุนทร เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากนั้นได้กลับมาอยู่ที่วัดระฆัง ศึกษาพระธรรมเพิ่มเติมจนเข้าสอบได้นักธรรมตรี โท เอก ตามลําดับสุดท้ายท่านในปี พ.ศ.2514 ท่านสอบได้ถึงเปรียญธรรม 9 ประโยค และได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม

จนถึงปี พ.ศ.2550 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดระฆัง โดยตลอดเวลาท่านได้รับการเลื่อสมณศักดิ์ จนถึงเลื่อนชั้นตําแหน่งหน้าที่เรื่อยมา ปัจจุบันท่านเป็นเจ้าคณะภาค 11 ปกครองจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ ชัยภูมิ สุรินทร์ ในสมณศักดิ์ที่พระธรรมธีรราชมหามุนี หรือที่รู้จักและเรียกท่านว่า “เจ้าคุณเที่ยง” ในวัย 80 ปี 58 พรรษา และท่านได้ปกครองวัดระฆังโฆสิตารามด้วยความเจริญ รุ่งเรืองตลอดมาถึงทุกวันนี้

เมื่อท่านบวชเรียนเป็นสามเณรและได้มาอยู่ที่วัดระฆัง ด้วยความสนใจในพระปริยัติธรรมแล้ว ท่านยังสนใจในทางศึกษาวิชาอาคมชื่นชอบในการท่องคาถาชินบัญชร จนเชี่ยวชาญทั้งยังได้รับการแนะนําในการศึกษาจากหลวงปู่นาค และหลวงปู่หิน วัดระฆัง เมื่อท่านบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์ไม่นาน ในปี พ.ศ.2500 ได้สร้างพระพิมพ์สมเด็จเนื้อทองเหลืองผสมแบบหล่อโบราณ มีศิษย์ที่เป็นทหารเรือจากกรมอู่ทหารเรือถวายโลหะทองเหลืองที่ทํามาจากปล่องไฟเรือรบหลวงอยุธยาเป็นชนวนแบ่งเป็นพิมพ์ หลักๆ ที่สร้างคือ

1 พิมพ์สมเด็จสี่เหลี่ยมพิมพ์ใหญ่ ขนาดสูง 2.4 ซ.ม. กว้าง 1.7 ซ.ม. ด้านหน้าเป็นรูปพระพิมพ์สมเด็จฐานสามชั้นรอบๆ องค์พระเป็นก้านช่อดอกบัวและดอกไม้ ด้านหลังเรียบ

2 พิมพ์สมเด็จสี่เหลี่ยมพิมพ์เล็ก ขนาดสูง 2 ซ.ม. กว้าง 1.5 ซ.ม. ด้านหน้าเป็นรูปพระพิมพ์สมเด็จฐานสามชั้นต่อด้วยฐานสิงห์อีกสามชั้น รอบๆ มีก้านช่อดอกบัวและดอกไม้ ด้านหลังเรียบ

3 พิมพ์สมเด็จสามเหลี่ยมพิมพ์ใหญ่ ขนาดสูง 3.4 ซ.ม. กว้าง 2.5 ซ.ม. ด้านหน้าเป็นรูปพระพิมพ์สมเด็จฐานสามชั้นรอบๆ องค์พระเป็นก้านช่อดอกบัวและดอกไม้ ด้านหลังเรียบ

4 พิมพ์สมเด็จสามเหลี่ยมพิมพ์เล็ก ขนาดสูง 2 ซ.ม. กว้าง 4.2 ซ.ม. ด้านหน้าเป็นรูปพระพิมพ์สมเด็จฐานสามชั้นรอบๆ องค์พระเป็นก้านช่อดอกบัวและดอกไม้ ด้านหลังเรียบ

ฉบับ 159 พระสมเด็จ สี่เหลี่ยม-สามเหลี่ยม

โดยพระทั้งหมดมีจํานวนการสร้างเพียงไม่กี่ร้อยองค์ หลังจากนั้นได้นํามาให้หลวงปู่นาค และหลวงปู่หิน ทําการปลุกเสกและได้นํามาร่วมในพิธีปลุกเสกพระเครื่อง 25 พุทธศตวรรษ ซึ่งเป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสมัยนั้น มีพระเกจิ อาจารย์เก่งๆ ในยุคนั้นมาร่วมพิธีอย่างมากมาย ปัจจุบันวัตถุมงคลเหรียญหล่อรุ่นแรกท่านเจ้าคุณเที่ยงได้รับความนิยมในศิษย์ที่ให้ความนับถือท่าน และร่ำลือว่าบูชาแล้วดีเด่นในทุกๆ ทาง ยิ่งเรื่องเมตตามหานิยม แคล้วคลาดให้ความเจริญรุ่งเรือง ในหน้าที่การงาน เป็นหนึ่งในพระเครื่องสายวัดระฆัง สืบทอดตามตําราของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต ที่น่าเสาะหาบูชาเป็นอย่างยิ่ง ท่านที่ได้ครอบครองถือว่ามีพระเครื่องล้ำค่าที่สวยงามทรงคุณค่าเป็นที่สุด

 

นิตยสารพระเครื่องล้ำค่า ปีที่ 14 ฉบับ 159 พฤศจิกายน 2558 หน้า 30-31