เหรียญหนุมานเชิญธง หลวงพ่อยิด รุ่นอธิษฐานจิต วัดหนองจอก ปี2537 สวยมากผิวเดิมๆ

หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นอีกหนึ่งพระเกจิอาจารย์ที่มีสานุศิษย์ให้ความเคารพนับถืออย่างกว้างขวาง เนื่องจากท่านเป็นพระที่มีวัตรปฏิบัติอันเคร่งครัดอีกทั้งวัตถุมงคลของหลวงพ่อยิดที่ปลุกเสกในแต่ละรุ่นนั้นมีอานุภาพมาก เกิดประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์มานักต่อนัก หนึ่งในนั้นคือ เหรียญหลวงพ่อยิด หลังหนุมานเชิญธง รุ่น อธิษฐานจิต ปี 2537 เป็นอีกหนึ่งเหรียญที่ได้รับความนิยม สร้างขึ้นเมื่อปี 2537 ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อยิด อยู่ในอิริยาบถพนมมืออธิษฐานจิต ด้านหลังเป็นรูปหนุมานเชิญธงที่มีลักษณะคล่องแคล่ว ว่องไว จึงมีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยวัตถุประสงค์ในการสร้าง เพื่อสมทบทุนสร้างกุฏิสงฆ์วัดหนองจอกและศาลาปฏิบัติธรรมสำนักสงฆ์ไร่เนินสาขาหลวงพ่อยิด เหรียญหลวงพ่อยิด รุ่นอธิษฐานจิต ปี 2537 ได้สร้างเป็น เนื้อเงิน เนื้อทองแดง ปลุกเสกอธิษฐานจิตอย่างเข้มขลัง ที่กุฏิหลวงพ่อยิด วัดหนองจอกเป็นเวลานานร่วม 1 เดือน และหลวงพ่อยิดท่านได้อธิษฐานจิตปลุกเสกที่วัดไร่เนิน อีกครั้งเป็นเวลา 3 ชั่วโมง อานุภาพของเหรียญรุ่นนี้มีมากมายหลายประการ เช่น ในด้านของชัยชนะ ความมีชัยอยู่เหนือผู้อื่น แคล้วคลาด คงกระพัน เป็นมหากำลัง รวมทั้งเสน่ห์เมตตามหานิยม เป็นต้น จากคำพูดของหลวงพ่อยิด "ทำได้แต่หลังยันต์ครูกัน ทำไมหนุมานตัวเก่งของฉันไม่ทำกันบ้าง" จากพระสมเด็จหนุมานเสาร์ ๕ ปี 2536 จึงกลายมาเป็นเหรียญอธิษฐานจิตหลังหนุมานเชิญธงในปี พ.ศ. 2537 เหตุผลที่สร้าง ส่วนหนึ่งให้หลวงพ่อไว้แจกศิษย์อีกส่วนหนึ่งแจกทหารและอีกส่วนหนึ่งแจกผู้ที่มาร่วมสร้างกุฏิสงฆ์ วัดไร่เนิน (วัดสาขาหลวงพ่อยิด) จำนวนสร้างดังนี้ เนื้อเงิน จำนวนสร้าง 119 องค์ ตอกโค้ดหมายเลขกำกับทุกองค์ เนื้อเงินในจำนวนนี้ นำมาลงยาสีเหลืองจำนวน 20 องค์ องค์ที่ลงยาตอกโค้ด อุนาโลม เพิ่มที่แขนหลวงพ่อยิดอีกหนึ่งที่ แยกกันออกได้ชัดเจน เนื้อทองแดงสร้างทั้งหมดจำนวน 20,000 องค์ (หมายเหตุ เดิมทีสั่งปั้มเนื้อทองแดง 15,000 เหรียญ แต่ทางโรงงานปั้มมาเกิน 5,000 เหรียญ หลวงพ่อท่านจึงให้เอาไว้ทั้งหมด จึงเป็นยอดสร้างที่แน่นอน เนื้อทองแดง 20,000 องค์ ) สำหรับเนื้ออื่นๆ ไม่มีแน่นอน รุ่นนี้มีแค่ 2 เนื้อ ปลุกเสกช่วงในพรรษา ปี 2537 ในกุฏิหลวงพ่อยิด ที่วัดหนองจอก 1 เดือนเต็มๆ หลังออกพรรษาแล้ว หลวงพ่อยิดมานั่งปลุกเสกที่ วัดไร่เนิน อีกประมาณ 3 ช.ม. เต็ม วันนั้นเป็นเหตุบังเอิญหลวงพ่อท่านไปปลุกเสกต่างจังหวัดกลับมาแวะเยี่ยมผมที่ วัดไร่เนิน ผมเองก็บอกหลวงพ่อว่าเหรียญที่หลวงพ่อปลุกเสกไว้ให้จะนำออกแจกผ้าป่าส่วนที่แบ่งให้หลวงพ่อแจก ประมาณ 5,000 เหรียญ ส่วนที่นำไปให้แจกกับทหารจำนวน 3,000 เหรียญ อีก 12,000 เหรียญ ไว้แจกกับผ้าป่าส่วนเหรียญเงิน เอาไว้แจกกับผู้ที่มาร่วมกุฏิสงฆ์ที่บริจาคมากๆ แต่ก่อนที่จะแจกก็เลยให้หลวงพ่อยิดปลุกเสกอีกครั้งโดยนำโต๊ะสี่เหลี่ยม วางผ้าขาวปูและนะเหรียญออกจากกล่องวางบนโต๊ะเห็นกัน จะๆ หลวงพ่อยิดนั่งปลุกเสกอยู่ประมาณ 3 ช.ม. เต็ม อีกครั้ง หลังจากท่านออกจากสมาธิปลุกเสกท่านประพรหมน้ำพุทธมนต์ลงไปที่กองเหรียญทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องตกตะลึง เมื่อน้ำพุทธมนต์ปะทะกับเหรียญรุ่นนี้เป็นควันไฟพวยพุงออกมาจากกองเหรียญ เหมือนว่าเราเอาน้ำไปดับไฟ เมื่อพันโทเกรียงเดช แย้มโอษฐ (ยศในสมัยนั้น) เอามือช้อนไปที่กองเหรียญหวังจะหยิบสักกำมือต้องสะบัดมือ!! เหรียญกระจัดกระจายเต็มห้องหลวงพ่อยิดเองท่านยังยิ้มหัวเราะ ผู้พัน ผมเองก็ยังแซวผู้พัน เป็นไงบ้างผู้พันเจอหลวงพ่อยิดหนุนธาตุไฟไปแล้วสิ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงครับเพราะผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นมีหลวงพ่อยิด หลวงตาลาว ปภาโส และผม พระไชยา ปัญญาธโร ในสมัยนั้น พันโทเกรียงเดช แย้มโอษฐ (ยศในสมัยนั้น) ยังมีชีวิตอยู่ จ่าสิบเอกสุธน โอสถานนท์ ยังมีชีวิตอยู่ จ่าสิบเอกสุนทร พุ่มพวง ยังมีชีวิตอยู่ แล้วทหารอีกสิบกว่านาย ที่อยู่ในเหตุการณ์ ทุกคนยังมีชีวิตอยู่ เหรียญจึงถูกร่ำลือในสมัยนั้นหลวงพ่อยิดปลุกเสกเหรียญร้อนเป็นไฟมีอยู่ด้วยกัน 3 รุ่น คือเหรียญ ยันต์โย้ ปี 2534 เหรียญออกวัดหนองพิกุล อ.ทับสะแก และ เหรียญหลังหนุมานเชิญธง ปี 2537 3 รุ่นนี้ เป็นที่รู้จักกันในหมู่ศิษย์ ตั้งแต่สมัยหลวงพ่อยิดมีชีวิตอยู่แล้วว่าเหรียญปลุกเสกร้อนเป็นไฟ