ประวัติและการสร้าง "พระปิดตาพิมพ์นะหัวเข่า" หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง กรุงเทพ

21 เมษายน 2563    1,626

พระปิดตาพิมพ์นะหัวเข่า หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง กรุงเทพฯ

โดย ศาล มรดกไทย

พระภาวนาโกศลเถระ (หลวงปู่เอี่ยม) วัดหนัง สุดยอดพระเกจิอาจารย์องค์หนึ่งของเมืองไทย ที่เป็นที่รู้จักของผู้นิยมสะสมบูชาพระเครื่องทั่วประเทศ แทบจะกล่าวได้ว่า ตั้งแต่ชาวไทยเริ่มมีการสะสมแลกเปลี่ยนพระเครื่องจนมีผู้เชี่ยวชาญเรียกกันว่าเซียนพระจนถึงปัจจุบัน วัตถุมงคลของหลวงพ่อวัดหนังจะได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ที่จะมีการกล่าวถึง เพราะความศรัทธาที่เกิดจากพุทธคุณในพระเครื่อง รวมถึงเครื่องรางของขลังของท่าน มีประสบการณ์เป็นที่เชื่อถือที่สําคัญ

หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทรงให้ความเคารพนับถือเป็นยิ่งนัก ซึ่งในสมัยของพระองค์ท่านมีพระคณาจารย์เก่งๆ ชื่อดังมากมาย แต่พระองค์กลับให้ความเคารพนับถือหลวงปู่เอี่ยม ยิ่งกว่าพระเกจิอาจารย์องค์อื่นๆ แสดงถึงความเชี่ยวชาญในวิชาอาคมของหลวงพ่อวัดหนัง จนเป็นที่เลื่อมใสของพระองค์ท่าน โดยในครั้งนี้ขอนําเสนอพระปิดตาของหลวงปู่เอี่ยม พิมพ์นะหัวเข่า ที่เป็นของดีของขลังของท่านที่ยังพอเก็บสะสมบูชาได้ในราคาที่เหมาะสม

ประวัติของหลวงปู่ และการสร้าง พระปิดตาพิมพ์นะหัวเข่า

จากการที่ผู้เขียนเคยนําเสนอประวัติของท่านไว้แล้ว จึงขอกล่าวถึงเพียงเล็กน้อย หลวงปู่เป็นชาวบางขุนเทียน ถือกําเนิดในปี พ.ศ.2375 เมื่ออายุได้ประมาณ 9 ขวบ บิดามารดานําไปฝากไว้กับหลวงปู่รอด วัดหนังในสมัยนั้น ได้ร่ำเรียนเขียนอ่านรวมถึงบวชเณรและได้ตามหลวงปู่รอดไปอยู่วัดนางนอง ศึกษาวิชาอาคมกับหลวงปู่รอดจนอุปสมบทเป็นพระภิกษุในปี พ.ศ.2397 และได้ตามหลวงปู่รอดไปอยู่วัดโคนอน ซึ่งหลวงปู่เอี่ยมได้เรียนวิชาจากหลวงปู่รอด (กล่าวกันว่าหลวงปู่รอดเป็นพระอาจารย์ที่เชี่ยวชาญวิชาอาคมเป็นยิ่งนัก) ทั้งหลวงปู่เอี่ยมยังได้เดินธุดงค์ศึกษาวิชาอาคมเพิ่มเติมและได้เป็นเจ้าอาวาสวัดโคนอน ต่อจากหลวงปู่รอดพระอาจารย์ของท่าน

ถึงปี พ.ศ.2441 ท่านได้มาครองเป็นเจ้าอาวาสวัดหนัง สร้างความรุ่งเรืองบูรณะวัดหนังพระอารามหลวงที่มีสภาพชํารุดทรุดโทรม จนเป็นที่มั่นคงสวยงามได้รับสมณศักดิ์เป็นพระภาวนาโกศลเถระ ทั้งยังได้รับพระราชทานพัดยศงาสาน จากในหลวงรัชกาลที่ 5 ซึ่งมีพระเถราจารย์เพียงไม่กี่รูปที่จะได้รับ

หลวงปู่เอี่ยมเป็นเจ้าอาวาสวัดหนังจนถึงปี พ.ศ.2469 ท่านจึงได้มรณะภาพอย่างสงบด้วยโรคชรา ศิริอายุได้ 94 ปี 72 พรรษา

การสร้าง พระปิดตาพิมพ์นะหัวเข่า

หลวงปู่เอี่ยมเริ่มสร้างวัตถุมงคลให้ศิษย์เอาไว้คุ้มครองตั้งแต่สมัยที่ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดโคนอน เช่น ตระกรุด ผ้ายันต์ หมากทุย พระปิดตา ฯลฯ สําหรับพระปิดตาพิมพ์นะหัวเข่า เป็นพระเครื่องพิมพ์ที่หลวงปู่สร้างจํานวนแพร่หลายมากที่สุด ส่วนมากสร้างจากเนื้อชินตะกั่ว เพราะทําได้ครั้งละจํานวนมาก ด้วยมีประชาชนเดินทางมาขอพระเครื่องของท่านตั้งแต่อยู่วัดโคนอน

ยิ่งในช่วงยุคสมัยที่ประเทศไทย เกิดข้อพิพาทและต้องรบกับฝรั่งเศสที่มารุกราน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2435 เรื่อยมา นับเป็นสิบปีชายชาวไทยที่เป็นทหารและประชาชนทั่วไป ต่างเดินทางมาขอพระเครื่องกับหลวงปู่จนสร้างแจกไม่ทัน บางคนได้รับไปมีการทดสอบในความขลังด้วยการใช้ปืนลองยิง ซึ่งพบว่าปืนกระสุนด้านยิงไม่ออกจนเป็นที่ร่ำลือ และมีประสบการณ์ทางด้านคงกระพันชาตรี จนทําให้หลวงปู่เอี่ยมเป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชน ร่ำลือในความเมตตารวมถึงความเข้มขลังในวิชาอาคม

และเมื่อท่านย้ายมาครองวัดหนัง ก็ยังสร้างพระปิดตาพิมพ์นะหัวเข่า แจกศิษย์ที่เดินทางมากราบไหว้อยู่เป็นประจํา ยิ่งชาวบางขุนเทียนรวมไปถึงเขตใกล้เคียงต่างหวงแหนเชื่อมั่นในวัตถุมงคลของท่านเป็นอย่างมาก เรียกท่านว่าพระเครื่องล้ำค่า “เจ้าคุณเฒ่า” ด้วยความเคารพอย่างสูงตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน

สําหรับ พระปิดตาพิมพ์นะหัวเข่า เป็นพระปิดตาขนาดเล็ก สูงประมาณ 2 เซนติเมตร กว้างสุดประมาณ 1.2 เซนติเมตร
มีลักษณะเป็นรูปพระปิดตามือคู่บนปิดที่หน้าคู่กลางปิดที่ท้องและคู่ล่างลงมาปิดที่ก้น ที่เป็นจุดเด่นคือหัวเข่าทั้งสองข้างจะมีตัวยันต์ “นะ” ทั้งสองข้างแบบกลับด้านกันชัดเจนในองค์ที่หล่อมาได้ชัดๆ จะมียันต์ที่เหนือเศียรพระด้านบนเป็นยันต์ตัว “พะ” เป็นเอกลักษณ์ที่จดจําง่าย ด้านหลังส่วนมากจะเรียบมีพบเจอที่เป็นแบบสองหน้าแบบยันต์นูน และแบบมีลายมือลงเหล็กจารไว้ด้านหลัง แต่จะหาแบบพิเศษนี้ได้ยากไม่ค่อยพบเจอ พระปิดตาพิมพ์นะหัวเข่าจะมีเนื้อผงคลุกรักจํานวนน้อย และเนื้อชินตะกั่วที่พบเจอมากที่สุด

ในขั้นตอนการสร้างสําหรับพระเนื้อชินตะกั่วถ้าเป็นแบบหน้าเดียวจะเทแบบเป็นแผงครั้งละหลายๆ องค์เมื่อตัดพระออกมาแล้วจึงตบแต่งข้างๆ ให้เหลือเพียงองค์พระและยังมีแบบที่เป็นปีกข้างๆ เพื่อความสวยงามและแปลกตาเป็นบางองค์ แต่ถ้าเป็นแบบสองหน้าทําเป็นแบบพิมพ์ประกบมีรอยด้านข้างคาดว่าคงสร้างได้ยุ่งยากจึงมีจํานวนน้อย

สําหรับการพิจารณาต้องดูธรรมชาติความเก่าของเนื้อชินตะกั่วเป็นสําคัญ ด้วยท่านสร้างติดต่อกันตั้งแต่อยู่วัดโคนอนจนมาถึงวัดหนัง ทําให้มีหลากหลายขนาดและแบบพิมพ์ แต่จะมีลักษณะคล้ายๆ กัน ความเก่าร่องรอยด้านหลังรวมถึงคราบไขที่ขึ้นตามองค์พระ จึงเป็นสิ่งสําคัญในการพิจารณา

ในปี พ.ศ.2512 ได้พบเจอพระปิดตาพิมพ์นะหัวเนื้อชินตะกั่วของหลวงปู่เอี่ยมที่ได้สร้างบรรจุไว้ที่เจดีย์วัดโคนอน จํานวนประมาณเกือบ 2000 องค์ เกิดจากการที่ทางวัดจะรื้อพระเจดีย์รอบๆ โบสถ์เพื่อสร้างโบสถ์หลังใหม่ให้มีขนาดใหญ่กว่าเดิม ทําให้เมื่อรื้อพระเจดีย์ด้านหน้าทั้งสองฝั่งที่สร้างในสมัยหลวงปู่เอี่ยมจึงพบพระปิดตาพิมพ์นะหัวเข่าเนื้อชินตะกั่วดังกล่าว และพระปิดตาที่พบเจอทางวัดเปิดให้ประชาชนมาบูชาเพื่อนําเงินรายได้มาสร้างพระอุโบสถจนสําเร็จลุล่วงไปด้วยดี

พระปิดตาพิมพ์นะหัวเข่า ของหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง สร้างชื่อเสียงในด้านมหาอุดคงกระพันชาตรีมาเนิ่นนาน ผู้เขียนเกิดและเติบโตย่านบางขุนเทียน ได้ยินได้ฟังเรื่องราวพุทธคุณทางด้านหนังเหนียวของพระปิดตาท่านมาตั้งแต่เด็กๆ ยังจําได้แม่นเรื่องเพื่อนของบิดาผู้เขียน เป็นชาวสวนส้มบางมดนําพระปิดตาพิมพ์นะหัวเข่าแขวนผูกเชือกไว้ที่คอไก่แล้วลองยิงด้วยปืนลูกซอง ไก่ตัวนิดเดียวถูกยิงจนกระเด็นขนกระจาย แต่กลับลุกขึ้นวิ่งได้ไม่เป็นอันได้เห็นเลือด แต่สุดท้ายไก่ตัวนั้นก็ถูกเอามาแกงจนได้ เป็นเรื่องราวในวัยเด็กที่จําได้อย่างแม่นยํามาจนถึงทุกวันนี้ ที่สําคัญพระปิดตาของท่านยังดีทางด้านค้าขายเมตตามหานิยมควรค่าแก่การบูชาติดตัวเป็นยิ่งนัก

นิตยสาร พระเครื่องล้ำค่า ปีที่ 11 ฉบับ 130 มิถุนายน 2556 หน้า 30-31