แม็กกาซีนพระ บทความและสาระความรู้

วัตถุมงคล หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา ดีครบถ้วนในทุกๆ ทาง ทั้งเมตตามหานิยม ทางด้านค้าขาย กันภูตผีปีศาจ มหาอุด แคล้วคลาดคงกระพันชาตรี
25 เมษายน 2563    8,691

หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จ.พระนครศรีอยุธยา

โดย ศาล มรดกไทย
 

กรุงเก่าอยุธยา เมืองที่ได้ชื่อว่ามีพระเกจิอาจารย์ที่เชี่ยวชาญในพระเวทย์ วิชาอาคม มาตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน และในจํานวนพระคณาจารย์หลายๆ รูป ถ้าจะกล่าวถึง หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก พระเถระที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา ไม่มีใครในเมืองอยุธยาสมัยก่อนที่รู้จักแล้วจะไม่นับถือท่าน ท่านเป็นที่เคารพรักของบรรดาลูกศิษย์ ยังรวมถึงศิษย์รุ่นน้องของท่าน หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พระร่วมยุคสมัยที่บวชเรียนวิชามาด้วยกันยังนับถือ เรียกหลวงพ่อจงว่า หลวงพี่ทุกคํา และหลวงพ่อปานท่านยังกล่าวกับลูกศิษย์ว่า “หลวงพ่อจงนี่ล่ะ พระทองคําทั้งองค์” แม้กระทั่ง หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ยังยกย่องในวิชาอาคม ซึ่งกันและกันมาแล้ว 

เหรียญหลวงพ่อจง
 

ประวัติหลวงพ่อจง

ท่านเป็นชาวตําบลหน้าไม้ อําเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เกิดเมื่อปี พ.ศ.2415 ครอบครัวมีอาชีพเป็นชาวนา ในวัยเด็ก ท่านมีสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง เจ็บป่วยเป็นประจํา บิดามารดาจึงนําท่านไปฝากอยู่ที่ วัดหน้าต่างใน เพื่อที่จะได้ร่ำเรียนหนังสือ จนเมื่อเติบโตขึ้นอายุครบบวช จึงได้อุปสมบทที่วัดหน้าต่างในเมื่อปี พ.ศ.2435 มีหลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ เป็นพระอุปัชฌาย์

หลังจากบวชแล้วท่านมีความสนใจศึกษาพระธรรม และวิชาอาคมแขนงต่างๆ ได้เริ่มเรียนกับหลวงพ่อโพธิ์ เจ้าอาวาสวัดหน้าต่างใน และเดินทางไปเรียนวิชากับหลวงพ่อปั้น วัดพิกุล หลวงพ่อสุ่น วัดบางปลาหมอ ฯลฯ เมื่อท่านไปเรียนวิชาหรือเดินธุดงค์ไปที่ต่างๆ ผ่านไปหลายปี

เป็นจังหวะที่วัดหน้าต่างนอกซึ่งเป็นวัดที่อยู่ใกล้ๆ กับวัดหน้าต่างใน ท่านเจ้าอาวาสองค์เก่าได้มรณะภาพลง ด้วยความเห็นชอบจากชาวบ้านจึงได้ไปขออนุญาตหลวงพ่อโพธิ์ให้หลวงพ่อจงท่านมาเป็นเจ้าอาวาส หลังจากที่ท่านได้รับเป็นเจ้าอาวาสแล้วท่านได้สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับวัดหน้าต่างนอก และด้วยวิชาอาคมอันแก่กล้าของท่าน ทําให้มีลูกศิษย์เดินทางมากราบไหว้ขอวัตถุมงคลเป็นจํานวนมากในทุกๆ วัน

หลวงพ่อจงวัดหน้าต่างนอก

เล่าสืบต่อกันมาว่า หลวงพ่อท่านเป็นพระที่มีความเมตตามาก ไม่เคยโกรธเคืองใคร มีแต่ให้อย่างเดียวและเป็นที่กล่าวขานในวิชาอาคม ทั้งทางด้านย่นระยะทางที่ท่านแสดงให้เห็นเป็นประจํา เรื่องนี้ตากับยายผู้เขียนซึ่งเป็นชาวบางไทรเล่าให้ฟังว่าเห็นกับตามาแล้ว หรือจะเป็นเรื่องการปลุกเสกวัตถุมงคลที่ท่านมักจะปลุกเสกแบบเป่าพ่วงเดียวแต่ขลังเป็นอย่างยิ่ง และมีผู้ชอบนําตระกรุดหรือวัตถุมงคลอื่นๆ ไปลองยิง และยิงไม่ออกหลายรายทีเดียว

ยังมีเรื่องเล่าถึงลูกศิษย์ของหลวงพ่อคนหนึ่งที่เป็นคนดีแต่ถูกกลั่นแกล้ง ทําให้ต้องออกปล้นได้รับฉายาว่า “เสือยนต์” ว่ากันว่าเสือยนต์หนังเหนียวเป็นอย่างยิ่ง ไม่เคยถูกยิงเข้าแม้แต่ครั้งเดียว และยังได้วิชาอาคมจากหลวงพ่อจงด้วยแต่มีอยู่ครั้งหนึ่งเกิดพลาดท่าถูกทางการจับได้ระหว่างที่อยู่ในห้องขัง มีญาติได้แอบนําน้ำมันหลวงพ่อจงไปให้ เสือยนต์ใช้ทาและแหกลูกกรงหนีออกมาได้ จึงได้กระโดดหนีลงแม่น้ำเกาะเรือพ่วงมาหาหลวงพ่อจงที่วัดหน้าต่างนอกได้อย่างปลอดภัย เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวบางไทรมักเล่าต่อๆ กันมาให้ลูกหลาน ได้รับฟังถึงอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อจง

ทางด้านความสนิทสนมกับ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ท่านจะรักเคารพซึ่งกันละกันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าที่วัดบางนมโค มีการงานใดๆ ก็ตาม หลวงพ่อปานจะต้องนิมนต์ให้หลวงพ่อจงมาเป็นประธานทุกครั้ง

ดังเช่นเรื่องที่ หลวงพ่อฤาษีลิงดํา ท่านเขียนบันทึกไว้ในหนังสือว่า สมัยที่ท่านบวชเรียนวิชากับ หลวงพ่อปาน ที่วัดบางนมโค ได้มีงานพิธีสําคัญงานหนึ่ง ได้เวลาที่พระจะเริ่มสวดมนต์แล้วและพระเกจิอาจารย์หลายๆ องค์ได้เดินทางมาพร้อมหมดแล้วขาดแต่หลวงพ่อจงองค์เดียว หลวงพ่อปานจึงได้ให้หลวงพ่อฤาษีลิงดํานั่งเรือเร็วไปพร้อมลูกศิษย์เพื่อที่จะไปรับหลวงพ่อจง เมื่อไปถึงวัดหน้าต่างนอกหลวงพ่อจงท่านกําลังจะรดน้ำมนต์ให้ลูกศิษย์ ท่านจึงบอกให้กลับวัดไปก่อน เดี๋ยวท่านจะเดินตามไปซึ่งถ้าจะเดินไปคงใช้เวลาเป็นชั่วโมงแน่ แต่ด้วยความที่ขัดท่านไม่ได้หลวงพ่อฤาษีลิงดํา ท่านจึงนั่งเรือเร็วกลับวัด หลังจากผ่านไปได้สิบห้านาทีถึงวัดบางนมโคปรากฏว่า หลวงพ่อจงท่านได้มานั่งเป็นประธานในพิธีอยู่ที่วัดบางนมโคเรียบร้อยแล้ว

ตลอดเวลาที่ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดหน้าต่างนอก มีลูกศิษย์ลูกหาทั้งที่เป็นประชาชนชาวบ้านธรรมดา หรือจะเป็นข้าราชการเจ้าขุนมูลนายทั้งหลายที่มาหาท่าน มักจะได้รับความสงเคราะห์ช่วยเหลือจากหลวงพ่อด้วยความเต็มใจจนทุกๆ คนเรียกยกย่องหลวงพ่อว่า “เทพเจ้าแห่งความเมตตา” ได้อย่างสนิทใจ และท่านไม่ยอมรับสมณศักดิ์ใดๆ ที่ทางคณะสงฆ์จะมอบให้ จนเมื่อถึงปี พ.ศ.2508 ตรงกับ วันมาฆบูชา หลวงพ่อจง ท่านได้มรณภาพ ด้วยอาการอันสงบ นับเป็นการสูญเสียพระแท้ที่น่ากราบไหว้ องค์หนึ่งของ เมืองไทยเลยทีเดียว

เหรียญหลวงพ่อจง
 

วัตถุมงคลของหลวงพ่อจง

ในสมัยที่หลวงพ่อยังอยู่ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้อย่างมากมาย แทบจะกล่าวได้ว่าไม่เคยขัดศรัทธาใครที่อยากให้ท่านปลุกเสกพระให้แต่ปัจจุบันใช่ว่าจะหาพระเครื่องของท่านได้ง่ายๆ ส่วนมากมักจะหวงแหน และมีผู้เก็บเอาไว้ด้วยความศรัทธา เช่นที่ท่านปลุกเสกเอาไว้มีเสื้อยันตร์ ผ้ายันตร์ ลูกอม พระเครื่องเนื้อดินเผายุคแรกๆ

ประมาณปี พ.ศ.2460 ปลาตะเพียน รักยม รูปถ่ายทั้งเล็กและใหญ่ ตระกรุดหลายๆ แบบ เช่น ตระกรุดหนังเสือ ตระกรุดโทน ตะกรุดมหาอํานาจ ตระกรุดชุด 16 ดอก ฯลฯ ยังมี รูปหล่อโบราณ เหรียญในรูปแบบต่างๆ หลายๆ รุ่น เรียกได้ว่า ท่านปลุกเสกเอาไว้หลายอย่าง

เหรียญหลวงพ่อจง

แต่ที่ปัจจุบันมีราคาแพงต้องยกให้ รูปหล่อโบราณนั่งปรางมารวิชัย ที่มีจํานวนไม่เกินหนึ่งร้อยองค์ เหรียญหยดน้ำรุ่นแรกทั้งเนื้อเงินลงยาหรือเนื้อทองแดง และเหรียญปี พ.ศ.2485 พิมพ์หน้าเล็กกับพิมพ์หน้าใหญ่ เหรียญเงินลงถม ขนาดเล็ก เหรียญมังคลายุรุ่นสุดท้าย ฯลฯ

วัตถุมงคลหลวงพ่อจงวัดหน้าต่างนอก ดีครบถ้วนในทุกๆ ทางทั้งเมตตามหานิยมเพราะหลวงพ่อท่านมีเมตตาเป็นอย่างสูงอยู่แล้ว ทางด้านค้าขาย กันภูตผีปีศาจ มหาอุด แคล้วคลาดคงกระพันชาตรี เรียกได้ว่าถ้าจะนับประสบการณ์ด้านพระเครื่องของชาวกรุงเก่าต้องมีชื่อของ หลวงพ่อจง เป็นอันดับต้นๆ แน่นอน ขนาดก้านธูปที่ท่านจารแผ่นตระกรุดที่มีผู้ตัดโลหะแล้ว ให้ท่านทําตระกรุดให้แต่หาเหล็กจารไม่ได้จึงใช้ก้านธูปแทนและมีผู้นําก้านธูปก้านนั้นมาทดลองยิง ยังยิงไม่ออกมาแล้ว เรื่องนี้เป็นที่กล่าวขานกันมาจนถึงทุกวันนี้

เหรียญหลวงพ่อจง

พระเครื่องล้ำค่า ปีที่ 7 ฉบับ 83 กรกฎาคม 2552 หน้า 30-31