แม็กกาซีนพระ บทความและสาระความรู้

'วัดหลวงพ่อโอภาสี' จากอาศรมบางมด กับการบูชาเพลิงเป็นพุทธบูชา
28 กรกฎาคม 2563    6,813

วัดหลวงพ่อโอภาสี 

ถนนพุทธบูชา แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร แผนที่
 

วัดหลวงพ่อโอภาสี

วัดหลวงพ่อโอภาสี เดิมคือ สำนักสงฆ์ อาศรมบางมด ที่ชาวบ้านสวนบางมดได้สร้างขึ้นเพื่อถวายแก้หลวงพ่อโอภาสี 
ที่ได้เดินทางธุดงค์ไปอยู่ที่ย่านบางมด ชาวบ้านในพื้นที่ก็ให้ความเคารพนับถือหลวงพ่อมาก จึงได้สร้างท่านให้อยู่อย่างถาวรสืบไป ทำให้สำนักสงฆ์แห่งนี้เจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ และเป็น วัดหลวงพ่อโอภาสี ในปัจจุบัน

วัดหลวงพ่อโอภาสี


หลวงพ่อโอภาสีพระภิกษุผู้มีอิทธิปาฏิหาริย์เป็นที่กล่าวขวัญอย่างกว้างขวาง รวมทั้งวัตถุมงคลหลากหลายรูปแบบของท่านที่สร้างชื่อเสียงโด่งดังทางด้านพุทธคุณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอยู่ยงคงกระพันชาตรี หรือเมตตามหานิยม และที่ยอมรับกันเป็นอย่างมาก คือ การค้าขายให้เจริญรุ่งเรือง จนเรียกได้ว่าท่านเป็นพระอาจารย์รูปหนึ่งที่มีชาวไทยเชื้อสายจีน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่ประกอบกิจการค้าขาย นับถือท่านเป็นที่สุด เพราะเชื่อกันว่า ได้กราบไหว้ขอพรจากท่านแล้ว จะประสบความสำเร็จสมหวังเสมอ โดยเฉพาะเรื่องของธุรกิจการค้า จะเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นตลอดเวลา

วัดหลวงพ่อโอภาสี
รูปหล่อหลวงพ่อโอภาสี จะตั้งอยู่หน้าเจดีย์ภายในวัด มีประชาชนเข้าไปกราบไหว้ ขอพรอยู่ไม่ขาด

วัดหลวงพ่อโอภาสี

วัดหลวงพ่อโอภาสี

องค์เจดีย์กลางน้ำ ภายในมีสังขารของหลวงพ่อฯ ที่ไม่เน่าเปื่อย และยังเก็บไว้ให้ผู้ที่ศรัทธามากราบไหว้ โดยเข้ากราวไหว้ได้เฉพาะผู้ชายเท่านั้น


วัดหลวงพ่อโอภาสี

เตาไฟ ที่บรรดาลูกศิษย์ได้สร้างถวายหลวงพ่อ โดยผู้เข้าไปกราบไหว้หลวงพ่อที่วัด สามารถถวายน้ำมันสำหรับเติมเตาไฟได้ เพราะเตาไฟจะไม่มีวันดับ

นอกจากนี้ในบริเวณวัดยังประดิษฐาน เจ้าแม่อวนอิม พระสังกัจจายน์ พระแม่ธรณี ศาลานี้ประดิษฐานพระพุทธบาทจำลอง ไว้ให้คนมาสักการะบูชา


สำหรับประวัติของ หลวงพ่อโอภาสี เดิมชื่อ นายชวน มะลิพันธ์ บ้านเดิมอยู่ บ้านตรอกไฟฟ้า อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช อายุ 5 ขวบ ก็บรรพชาเป็นสามเณรเล่าเรียนอักขระบาลีสันสกฤตจากสำนักวัดโพธิ์ในท้องถิ่น ทุกวันสามเณรชวนจะเล่าเรียนพระปริยัติด้วยความขยันขันแข็ง และฉลาดเฉลียวเป็นที่พอใจของเจ้าสำนักบาลีวัดโพธิ์ถึงกับออกปากจะส่งมาเรียนในกรุงเทพฯ เพราะเห็นแววความเป็นนักธรรมอันยิ่งใหญ่ในตัวของสามเณรชวนนั่นเอง


ครั้นเรียนจบสำนักวัดโพธิ์ สามเณรชวน ก็ถูกพามาถวายตัวเป็นศิษย์ในองค์สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรฌานวงศ์ ซึ่งทรงรับไว้ในพระอุปการะและทรงทำการอุปสมบทให้เป็นภิกษุ ณ พัทธสีมา วัดบวรนิเวศมหาวิหาร โดยทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ด้วยพระองค์เอง พระภิกษุชวน เรียนพระปริยัติจนสอบได้เปรียญ 7 ประโยค เข้ารับพระราชทานพัดยศจากพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และถูกขนานนามว่า มหาชวนเปรียญเอก

วัดหลวงพ่อโอภาสี

หลังจากเล่าเรียนปริยัติธรรมจนเชี่ยวชาญ จึงตัดสินใจจาริกเดินธุดงค์ไปตามสถานที่ต่าง ๆ หลายแห่ง ผ่านป่าเขาลำเนาไพรมากมาย จนกระทั่งได้ยินชื่อเสียงของ หลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ว่าเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และมีกิจวัตรที่ไม่เหมือนใคร เสมือนเป็นแรงบันดาลใจให้  มหาชวน ดั้นด้นเดินทางมาฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อกบนานหลายเดือน ทำให้ท่านดำเนินรอยตามวิชาของอาจารย์ท่าน คือ บูชาเพลิงเป็นการศึกษาเรื่องเพ่งกสินไฟ เพื่อให้จิตใจสงบนิ่ง และหลุดพ้นจากกิเลสต่างๆ ด้วยการนำสิ่งของทุกอย่างที่ได้รับมาโยนเข้ากองไฟหมด

ต่อมาได้เดินทางธุดงค์ไปอยู่ที่ย่านบางมด ชาวบ้านในพื้นที่ก็ให้ความเคารพนับถือหลวงพ่อมาก จึงได้สร้างสำนักสงฆ์ อาศรมบางมด ขึ้นถวายท่านให้อยู่อย่างถาวรสืบไป ทำให้สำนักสงฆ์แห่งนี้เจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ และเป็น วัดหลวงพ่อโอภาสี ในปัจจุบัน

หลวงพ่อโอภาสี มรณภาพเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2498 แต่สังขารของท่านลูกศิษย์นำบรรจุไว้ในโลงแก้วประดิษฐานในพระมหาเจดีย์ในสวนอาศรมบางมด หรือปัจจุบันคือ วัดหลวงพ่อโอภาสี หรือวัดพุทธบูชา บางมด ฝั่งธนบุรี เพื่อให้ผู้ศรัทธากราบไหว้และน้อมนำคำสอน-ธรรมะของท่านมาปฏิบัติเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต

วัดหลวงพ่อโอภาสี
คาถาประจำตัวหลวงพ่อโอภาสี

อิติสุคะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปะฐะวีคงคา พระภุมมะเทวา ขะมามิหัง
(คาถานี้คือยอดพระภัณฑ์พระไตรปิฎกที่หลวงพ่อโอภาสีนำมาย่อและเรียบเรียงใหม่เพื่อให้ง่ายต่อการท่องจำของลูกศิษย์และผู้ศรัทธา สวดอยู่กับบ้านป้องกันอันตราย สวดก่อนออกจากบ้านคุ้มกันอันตรายตลอดการเดินทาง ไปต่างถิ่นสวดป้องกันภยันอันตรายต่าง ๆ จากเทวดา ภูติผีปีศาจ หรือเดินทางไปที่เปลี่ยวให้หยุดภาวนาที่ต้นไม้ใหญ่หรือศาลเจ้า ขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณนั้นช่วยปกปักษ์รักษาให้ปลอดภัย อนุภาพขอคาถานี้ครอบจักรวาลเลยทีเดียว)
 

วัดหลวงพ่อโอภาสี