แม็กกาซีนพระ บทความและสาระความรู้

พระเพชรหลีก และ พระปิดตา เจ้าคุณศรี วัดอ่างศิลา หนึ่งในยอดพระเกจิอาจารย์แห่งเมืองชลบุรี
23 มีนาคม 2563    23,031

เจ้าคุณศรี วัดอ่างศิลา หนึ่งในยอดพระเกจิอาจารย์แห่งเมืองชลบุรี

โดย ศาล มรดกไทย

 

จังหวัดชลบุรีดินแดนที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในพระปิดตาเนื้อผงคลุกรักอันเลื่องชื่อ โดยมีพระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ที่เป็นอันดับหนึ่ง และยังมีพระปิดตาเนื้อผงคลุกรัก ชื่อดังถูกจัดให้อยู่ในประเภทพระปิดตายอดนิยมในหลายๆ วัดของเมืองชลบุรี ซึ่งยังรวมถึงพระปิดตาของท่านเจ้าคุณศรี วัดอ่างศิลา ที่ได้รับความนิยมเป็นที่นับถือ และศรัทธาของประชาชนทั่วทั้งประเทศ ด้วยมีเอกลักษณ์ที่จดจําง่าย มีพุทธคุณสูง ไม่ยิ่งหย่อนกว่าพระปิดตายุคเก่าๆ แถมหลวงปู่ศรี ยังเป็นพระเพียงองค์เดียวที่ได้รับการสืบทอดวิชาการสร้างพระเพชรหลีก จากท่านเจ้าคุณทักษิณคณิศร (สาย) วัดใต้ เจ้าของตําราการสร้างพระเพชรหลีกอันโด่งดัง เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมมานาน ด้วยความชํานาญในวิชาอาคมทั้งท่านยังเป็นพระระดับเจ้าคณะจังหวัด มีความเมตตาเป็นที่นับถือของประชาชน ทําให้วัตถุมงคลของเจ้าคุณศรีได้รับความนิยมในการสะสมบูชาตลอดมา


ประวัติของ เจ้าคุณศรี

นามเดิมท่านชื่อ “ศรี ยูถะสุนทร” เกิดที่ตําบลอ่างศิลา จังหวัดชลบุรีในวันศุกร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ.2414 โยมบิดาชื่อทอง มารดาชื่อเอียง มีพี่น้องรวมกันได้ 7 คน ตั้งแต่เยาว์วัยนับเป็นเด็กที่มีความเฉลียวฉลาดสติปัญญาดี เมื่อเติบโตขึ้นบิดามารดาจึงนําตัวไปฝากไว้กับพระครูสุวรรณาทร (เที่ยง) ซึ่งเป็นลุงแท้ๆ ของท่านที่วัดอ่างศิลา ศึกษาวิชาการอ่านเขียนหนังสือ รวมถึงการเขียนอักขระขอมเลขยันต์ในชั้นต้น ด้วยความเป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่ายความจําดี จึงเป็นที่รักและเมตตาของหลวงลุงของท่าน หลังจากที่ได้เติบโตช่วยกิจการงานที่บ้าน

จนเมื่อมีอายุครบ 20 ปี ได้บรรพชาเป็นพระภิกษุสงฆ์ที่วัดอ่างศิลาโดยมี หลวงพ่อยิ้ม วัดอ่างศิลาใน (พระเกจิอาจารย์ที่เชี่ยวชาญในวิชาอาคมชื่อดัง) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการแสง วัดอ่างศิลาในเป็นพระกรรมวาจาจารย์ กับพระครูสุวรรณาทร (เที่ยง) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พรหมโชติ” เมื่อบวชเรียนเป็นพระสงฆ์ท่านอยู่ปรนนิบัติรับใช้พระอุปัชฌาย์และพระคู่สวดทั้งสององค์ ทําให้ทุกๆ พระอาจารย์ถ่ายทอดวิชาการศึกษาในพระธรรมวินัย

จนวันหนึ่งหลังจากบวชเรียนได้ไม่นานพระอุปัชฌาย์ยิ้ม ได้เรียกให้ไปพบและมอบวิชาการสะเดาะกุญแจ โดยให้พระคาถามาสวดภาวนาและกุญแจที่ล็อคแล้วหนึ่งดอก โดยกําชับว่าถ้าเอาลูกกุญแจออกได้เมื่อไหร่จะสอนวิชาอาคมต่างๆ ให้ ซึ่งท่านกลับมาสํารวมจิตใจภาวนาพระคาถาเพียงแค่สองวันท่านก็สามารถสะเดาะกุญแจออกได้ เป็นที่ชื่นชมของพระอาจารย์เป็นอย่างยิ่ง แสดงถึงพรสวรรค์ที่จะศึกษาวิชาอาคมได้ดี

หลังจากนั้นพระอาจารย์ยิ้มจึงได้ถ่ายทอดวิชาการนั่งสมาธิ การเขียนลงยันต์ ทําผงวิเศษ รวมถึงวิชา แพทย์แผนโบราณ การดูฤกษ์ยามโหราศาสตร์ เมื่อได้ศึกษาวิชากับพระอาจารย์ทั้งสามองค์จนหมดสิ้น ท่านยังได้เดินธุดงค์ไปศึกษาวิชาอีกหลายๆ แห่ง และได้กลับมาจําพรรษาที่วัดอ่างศิลา

จนถึงปีพ.ศ.2453 พระครูสุวรรณาทร (เที่ยง) หลวงลุงของท่านได้มรณภาพลง หลวงปู่ศรีจึงขึ้นดํารงค์ตําแหน่งเจ้าอาวาสและเป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาในปี พ.ศ.2456 ได้เป็นเจ้าคณะอําเภอเมือง จังหวัดชลบุรี รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่พระครูสุนทรธรรมรส หลวงพ่อท่านได้ปกครองทํานุบํารุงวัดอ่างศิลาซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย ให้มีความเจริญรุ่งเรือง ด้วยวัตรปฏิบัติของท่านที่มีความสํารวม ดูน่าเลื่อมใส ทั้งยังเป็นพระอาจารย์ที่มีความเมตตาอย่างสูง เป็นที่นับถือของประชาชนที่ได้พบเห็น ทําให้ได้รับเลื่อนสมณศักดิ์สูงขึ้นตลอดมา

จนปีพ.ศ.2482 ท่านเป็นเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี ซึ่งในยุคสมัยนั้นพระเกจิอาจารย์เก่งๆ ของเมืองไทยจํานวนมากทั้งที่จังหวัดชลบุรีและจังหวัดใกล้เคียงต่างให้ความเคารพนับถือหลวงปู่ศรี แม้แต่หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ ยังมีความนับถือซึ่งกันและกันเดินทางมาแลกเปลี่ยนวิชากันเป็นประจํา ที่สําคัญหลวงปู่ศรียังมีความสนิทสนมกับพระเกจิอาจารย์ในกรุงเทพหลายๆ องค์และยังเดินทางมาร่วมพิธีปลุกเสก พระงานใหญ่ๆ หลายๆ ครั้ง

ในปิ พ.ศ.2495 ท่านได้รับสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะราชทินนามพระวิสุทธิสมาจาร ตลอดเวลาที่ปกครองวัด ท่านมีสุขภาพแข็งแรง ดูแลงานทางพระพุทธศาสนาของจังหวัดชลบุรีด้วยความเรียบร้อยตลอดมา จนถึงปี พ.ศ.2510 เจ้าคุณศรีได้มรณภาพ ด้วยโรคชราอย่างสงบรวมสิริอายุได้ 97 ปี 77 พรรษา นับได้ว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีอายุยืนยาวองค์หนึ่งเลยทีเดียว


การสร้างวัตถุมงคลของเจ้าคุณศรี

ในยุคแรกๆ ท่านทําเพียงตะกรุดและผ้ายันต์แจกศิษย์ที่ใกล้ชิดเท่านั้น ด้วยความที่ท่านใช้เวลาไปกับการก่อสร้างวัดและดูแลวัดต่างๆ ในจังหวัดชลบุรี ทําให้มีเพียงเหรียญรุ่นแรกในปีพ.ศ.2478 ที่สร้างเป็นที่ระลึกในการทําบุญอายุครบ 64 ปี ซึ่งเป็นเหรียญที่สร้างจํานวนน้อยและหาได้ยาก



จนถึงปลายอายุขัยของหลวงพ่อท่านถึงได้สร้างพระเนื้อผงขึ้นเป็นครั้งแรกประมาณปี พ.ศ.2496 เรียกว่าพระเพชรหลีก โดยเป็นตําราการสร้างที่ท่านได้รับตกทอดมาจากเจ้าคุณทักษิณคณิศร (สาย) วัดอินทาราม (วัดใต้) ผู้ให้กําเนิดพระเพชรหลีกอันลือลั่นเป็นที่เชื่อมั่นของเซียนพระยุคเก่าก่อนเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นพระที่สร้างได้ยากมีขั้นตอนในการเตรียมวัตถุมวลสารที่ต้องใช้เวลาในการเก็บสะสม เช่น ว่านหลายๆ ชนิด ข้าวเปลือกที่สีไม่แตกและผ่านการหุงแล้วยังเป็นปกติ รวมถึงมวลสารที่หายากๆ อีกหลายอย่าง นับเป็นสุดยอดพระเครื่องที่ขั้นตอนการสร้างยุ่งยาก เจ้าคุณทักษิณฯ จึงไม่ถ่ายทอดให้ใครง่ายๆ แสดงถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อหลวงปู่ศรีจึงได้ถ่ายทอดวิชาการสร้างพระเพชรหลีกให้และหลวงปู่ศรีก็ใช้เวลารวบรวมสะสมมวลสาร เป็นเวลานานจนถึงเวลาอันเหมาะสมที่จะสร้างได้

ตามประวัติแล้วท่านได้สร้างพระเพชรหลีกเพียงแค่สองครั้งเท่านั้นในชีวิตของท่าน หลังจากนั้นหลวงปู่ศรีจึงได้สร้างพระปิดตาเนื้อผงคลุกรักเป็นครั้งแรกโดยมีเอกลักษณ์ที่จดจําง่ายคือ ด้านหลังใช้ยันต์กระบองไขว้อันเป็นยันต์ประจําที่หลวงปู่ศรีมักนิยมใช้ในการสร้างวัตถุมงคล สําหรับพระปิดตาของท่านสร้างตามหลักตําราของพระปิดตาเมืองชลบุรีในยุคก่อนๆ อันโด่งดัง มีมวลสารในด้านเมตตามหานิยม เด่นทางเสน่ห์เป็นยิ่งนัก


ปัจจุบันทั้ง พระเพชรหลีกและพระปิดตา ล้วนได้รับความนิยม มีราคาสูงแต่หาได้ยาก ต้องจดจําแบบพิมพ์เนื้อหามวลสารความเก่าที่ถึงอายุ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจะเป็นการดี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2500 เป็นต้นมาหลวงปู่ศรีได้สร้างวัตถุมงคลตามคําขอร้องของศิษย์และวัดต่างๆ ในจังหวัดชลบุรี ขอนําวัตถุมงคลไปให้ผู้ร่วมทําบุญกับวัดอื่นๆ หลายๆ แห่ง เช่นเหรียญหลายๆ แบบพิมพ์ รูปหล่อ พระผงสมเด็จ พระปิดตาเนื้อผงรุ่นต่อๆ มา แหนบ ล็อกเกต แหวน ผ้ายันต์ รูปถ่าย ฯลฯ


ท่านเจ้าคุณศรี พระที่เปี่ยมไปด้วยเมตตาและน่านับถือตลอดชีวิตของท่านไม่เคยพกพาเงินทอง เป็นหนึ่งในพระสงฆ์ที่กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ วัตถุมงคลของท่านมีพุทธคุณสูงไม่ว่าจะเป็นเรื่องคงกะพัน แคล้วคลาด เมตตามหานิยม ค้าขายเจริญรุ่งเรืองชาวเมืองชลบุรีเชื่อถือเป็นยิ่งนักแม้แต่ นักการเมืองผู้หลักผู้ใหญ่ชื่อดังหลายๆ ท่านยังพกบูชาพระเครื่องของเจ้าคุณศรีด้วยความเชื่อมั่น สมดังเป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์อาคมขลัง ของจังหวัดชลบุรีโดยแท้จริง