โดย ศาล มรดกไทย
ในอดีตเมืองหลวงฝั่งธนบุรี นับเป็นที่ชุมนุมของพระเกจิอาจารย์วิชาอาคมขลังมีชื่อเสียงโด่งดังหลายๆ รูป ดังเช่น พระครูประศาสน์สิกขกิจ (หลวงพ่อพริ้ง) วัดบางปะกอก พระอาจารย์องค์หนึ่งที่เสด็จพ่อกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทรงให้ความเคารพเลื่อมใสนับถือ เป็นพระอาจารย์ที่ท่านมาศึกษาวิชาอาคม ทั้งยังทรงนําพระราชโอรสทั้งสามพระองค์มาบวชเป็นสามเณรกับหลวงพ่อพริ้ง ที่วัดบางปะกอก และหลวงพ่อยังมีความสนิทสนมกับสมเด็จพระสังฆราชแพ ที่สําคัญทุกครั้งที่สมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศน์ จะทําพิธี ปลุกเสกพระกริ่งของพระองค์ มักจะต้องนิมนต์หลวงพ่อพริ้งมาร่วมในพิธีปลุกเสกด้วยทุกๆ ครั้ง
ในด้านวัตถุมงคลหลวงพ่อสร้างเอาไว้หลากหลายรูปแบบ ล้วนได้รับความนิยมเป็นที่เชื่อถือในพุทธคุณ เพราะมีประสบการณ์สูงเยี่ยมในทุกๆ ทาง ทําให้หลวงพ่อท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมาย ทั้งประชาชนธรรมดา ข้าราชการ เชื้อพระวงศ์ชั้นสูง แม้กระทั่งแม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม วัดอาวุธฯ ยังเป็นหลานแท้ๆ ของท่าน ฝึกเรียนธรรมะขั้นต้น กับหลวงพ่อพริ้งจนเป็นแม่ชีที่มีสมาธิแก่กล้ามีชื่อเสียงเป็นที่ศรัทธาเคารพบูชาอันดับต้นๆ ในเมืองไทย
ท้องที่บางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ อยู่ในฝั่งธนบุรีติดแม่น้ำเจ้าพระยา ในสมัยก่อนเต็มไปด้วยสวนผลไม้
หลวงพ่อถือกําเนิด สถานที่แห่งนี้ในปี พ.ศ.2412 เมื่อเติบโตพอที่จะร่ำเรียนเขียนอ่านได้ บิดามารดาได้นําท่านไปฝากบวชเป็นสามเณรที่วัดราชสิทธาราม (วัดพลับ) โดยได้เรียนทางด้านพระธรรมขั้นต้นควบคู่กันไป หลังจากที่บวชเป็นสามเณรมานานหลายๆ ปี กล่าวกันว่าท่านเริ่มสนใจเรียนในด้านวิปัสนากรรมฐานตั้งแต่ยังเป็นสามเณรที่สํานักวัดพลับแห่งนี้ จนมีสมาธิกล้าแข็ง
เมื่ออายุครบบวชได้บรรพชาเป็นพระภิกษุในปีพ.ศ.2435 ที่วัดบางปะกอก โดยมีพระสุธรรมสังวรเถร (มา) วัดทองนพคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากนั้นไม่นานจึงเริ่มธุดงค์ไปหลายๆ สถานที่ หลายๆ จังหวัดเพื่อร่ำเรียนวิชาอาคมกับพระเกจิอาจารย์ในสมัยนั้น และท่านยังเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกันกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จนมีความสนิทสนมกันดี เมื่อหลวงพ่อพริ้งเดินทางกลับได้มาอยู่ที่วัดบางปะกอก ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่แถวบ้านตั้งอยู่ริมคลองที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยา หลวงพ่ออยู่วัดบางปะกอกจนได้รับตําแหน่งเป็นเจ้าอาวาสในปี พ.ศ.2538 สร้างความรุ่งเรืองให้วัด เพราะความที่ท่านเชี่ยวชาญในวิชาอาคมช่วยเหลือชาวบ้านจนเป็นที่นับถือเลื่อมใส และด้วยความที่หลวงพ่อบวชตั้งแต่เป็นสามเณรที่วัดพลับ ทําให้หลวงพ่อรู้จักกับพระเกจิอาจารย์ในยุคสมัยนั้นที่อยู่ในกรุงเทพฯหลายๆ วัด เช่น สมเด็จพระสังฆราชแพ จะยกย่องในวิชาอาคม ของหลวงพ่อแนะนําให้ศิษย์มากราบไหว้โดยเฉพาะเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ในขณะนั้นหลายๆ คน ที่สําคัญทุกๆ ครั้งที่สมเด็จพระสังฆราชแพ ทรงหล่อสร้างพระกริ่งที่วัดสุทัศน์จะต้องให้ศิษย์นิมนต์หลวงพ่อพริ้งมาร่วมพิธีเป็นประจํา รวมถึงพิธีปลุกเสกพระเครื่องงานใหญ่ๆ ในสมัยนั้นจะต้องมีชื่อหลวงพ่อมาร่วมงานด้วยทุกครั้ง
สําหรับศิษย์จํานวนมากของหลวงพ่อที่ทําให้ท่านมีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น คือการมาถวายตัวเป็นศิษย์ของเสด็จพ่อกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ศึกษาวิชากับหลวงพ่อเพิ่มเติม ว่ากันว่าเสด็จพ่อฯ ได้รับคําแนะนําให้เดินทางมาหาหลวงพ่อพริ้งจากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จนเสด็จพ่อฯ เลื่อมใสศรัทธาในวิชานําพระโอรสทั้งสามพระองค์มาบวชเป็นสามเณรกับหลวงพ่อพริ้ง ที่วัดบางปะกอก และเดินทางมานมัสการหลวงพ่อที่วัดเป็นประจํา จนทําให้เชื่อพระวงศ์ ข้าราชการชั้นสูงในสมัยนั้น ให้ความเคารพนับถือหลวงพ่อตามไปด้วย
ในยุคสมัยที่ประเทศไทยต้องเกี่ยวข้องกับสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อทหารญี่ปุ่นเดินทางเข้ามาและได้ก่อตั้งอู่ต่อเรือริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ไกลจากวัดบางปะกอกมากนัก เมื่อถึงเวลาที่ถูกโจมตีทางอากาศโดยเครื่องบินทิ้งระเบิดจากทหารฝ่ายพันธมิตร วัดบางปะกอกกลับรอดพ้นจากการทิ้งระเบิดอย่างน่ามหัศจรรย์ ด้วยวิชาอาคมที่หลวงพ่อคอยปกป้องวัดและชาวบ้านที่มาพึ่งพาอาศัย ทั้งท่านยังได้สร้างวัตถุมงคล เช่น ลูกอม ผ้ายันต์ ตะกรุด ฯลฯ เอาไว้แจกบรรดาศิษย์ให้คุ้มครองตัวสร้างปาฏิหาริย์อยู่เป็นประจํานับว่าช่วงนั้นหลวงพ่อพริ้งนับเป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์ของเมืองไทยที่มีชื่อเสียงเป็นยิ่งนัก
ทางด้านพระพุทธศาสนาหลวงพ่อพริ้งได้สั่งสอนธรรมมะให้กับศิษย์ที่มาบวชเรียนที่วัดโดยหลวงพ่อได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชณาย์ในปี พ.ศ.2470 และได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูประศาสน์สิกขกิจเมื่อปี พ.ศ.2479 จนถึงปี พ.ศ.2490) หลวงพ่อพริ้งได้มรณภาพอย่างสงบที่วัดบางปะกอก โดยก่อนมรณภาพท่านให้ศิษย์ระของท่านนั่งสมาธิและจากไปด้วยท่านั่งสมาธินั่นเอง สิริอายุได้ 78 ปี 55 พรรษา
วัตถุมงคลในยุคแรกๆ หลวงพ่อสร้างแจกศิษย์ตั้งแต่เป็นเจ้าอาวาสได้ไม่นาน เพราะมีชาวบ้านมาขอให้ท่านช่วยขจัดปัดเป่ารักษาโรคภัย และร่วมกันช่วยหลวงพ่อบูรณะวัดที่ชํารุดทรุดโทรมท่านจึงทําวัตถุมงคลให้ศิษย์เอาไว้คุ้มครองแบ่งเป็นสามประเภทหลักๆ ได้แก่
1 เครื่องรางของขลัง ได้แก่ ผ้ายันต์ เสื้อยันต์ โดยหลวงพ่อท่านจะเขียนยันต์ด้วยตัวท่านเอง ผ้ายันต์จะมีทั้งผืนเล็กและผืนใหญ่ มีหลากหลายประเภท เช่น ทางเมตตา ค้าขาย คุ้มครอง ป้องกันอันตราย มักจะเขียนด้วยดินสออย่างสวยงามและเป็นระเบียบเรียบร้อย ยังมีตะกรุดหลายๆ ขนาดและที่สร้างชื่อให้หลวงพ่อ คือ ลูกอม สร้างจากเนื้อผงผสมมวลสารปั้นเป็นลูกกลมๆ ยุคแรกๆ จะเป็นสีเทาเข้มเกือบดํา และเป็นสีเทาอ่อนในยุคต่อมา ชาวบ้านท้องที่จะนิยมลูกอมของหลวงพ่อกันมากเพราะมีพุทธคุณสูงร่ำลือทางด้านคงกระพันกันเขี้ยวงา เรียกกันว่า ลูกอมหลวงพ่อพริ้ง
2 พระเครื่องพิมพ์พระพุทธเนื้อดินเผาและเนื้อผง มีมากมายหลากหลายนับสิบๆ พิมพ์ ที่นิยมจะเป็นพิมพ์สมเด็จไพ่ตอง พิมพ์พระคง พิมพ์ลีลา ฯลฯ ส่วนมากจะสร้างจากเนื้อผงผสมมวลสารมีลักษณะของสีและส่วนผสมคล้ายๆ กับลูกอม นับเป็นพระเครื่องที่หลวงพ่อสร้างเอาไว้จํานวนมาก และเป็นที่นิยมเสาะหาเช่นกัน
3 เหรียญรูปเหมือน นับเป็นเหรียญรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่สร้างในสมัยหลวงพ่อพริ้งยังอยู่ ในปี พ.ศ.2483
เศรษฐีบุญล้อม ศิษย์ใกล้ชิด ที่นับถือศรัทธาหลวงพ่อ ได้มีความประสงค์จะสร้างโรงเรียนปริยัติธรรม เอาไว้เป็นที่ศึกษาของพระสงฆ์ในวัดบางปะกอก จึงติดต่อช่างสร้างเหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อเพื่อมอบให้กับผู้บริจาคเงินช่วยเป็นทุนในการก่อสร้างและเพื่อให้เป็นที่ระลึก เอาไว้คุ้มครองบูชา
โดยหลวงพ่อเห็นเป็นศิษย์ใกล้ชิดเป็นผู้สร้างและมีเจตนาดี โดยมีแม่พิมพ์ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อเต็มองค์ข้างล่างเขียนปี พ.ศ.ที่สร้างแต่เกิดความผิดพลาด เขียนชื่อพระครูของหลวงพ่อผิดจากพระครูประศาสน์สิกขกิจ เป็นชื่อพระครูวิสุทธิ์ศิลาจารย์ แต่หลวงพ่อพริ้งท่านก็มิได้สนใจในความผิดพลาด ในชื่อของสมณศักดิ์แสดงถึงความไม่ยึดติดของหลวงพ่อ ด้านหลังมีสามแม่พิมพ์ เรียกชื่อตามยุคสมัยของรูปพระพุทธที่ปรากฎเห็นคือ พิมพ์พระเชียงแสน พิมพ์พระสุโขทัย พิมพ์พระกําแพงเพชร แต่ส่วนมากผู้สะสมจะเรียกแบบจําง่ายว่า พิมพ์เกศเปลวเพลิง กับพิมพ์เกศบัวตูม เท่าที่มีการพบเจอจะมีเนื้อทองคําหนึ่งเหรียญ เนื้อเงินไม่กี่สิบเหรียญ และเนื้อทองแดงรมดําหลักพันเหรียญต้นๆ
หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีวิชาอาคมขลังที่สุดองค์หนึ่งของเมืองไทย พระเครื่องวัตถุมงคลของหลวงพ่อ ได้รับความนิยมเป็นที่เชื่อถือมานาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม แคล้วคลาดค้าขายดี ขนาดเสด็จพ่อกรมหลวงชุมพรฯ ยังยกย่องนับถือให้เป็นพระอาจารย์เพียงไม่กี่องค์ของเสด็จพ่อฯ แสดงถึงความเชี่ยวชาญน่าเคารพบูชาและวัตถุมงคลของท่านมีพุทธคุณสูงน่าเสาะหาไว้คุ้มครองติดตัวเป็นอย่างยิ่ง
o หากมีบัญชี Facebook สามารถใช้ในการสมัครสมาชิกได้
o กรอกอีเมล/เบอร์โทรศัพท์ และรหัสผ่านที่ใช้เข้า Facebook
o กด “ตกลง” ก็จะเป็นสมาชิกเว็บไซด์พระพันธุ์ทิพย์ดอทคอม ได้ทันที
o ใส่ชื่ออีเมล และ รหัสผ่าน และ กดตกลง
o เข้าไปที่อีเมลที่ได้ลงทะเบียนไว้ ตรวจสอบอีเมลจาก prapantip@gmail.com เมื่อรับอีเมลแล้วให้กดที่ลิงค์ที่อยู่ในอีเมล เพื่อเข้าระบบ (บางครั้งอีเมล อาจไม่ได้อยู่ที่ Inbox กรุณาตรวจสอบที่ Junk Mail)
o ในครั้งต่อไป สามารถเข้าระบบ โดยกรอกอีเมล และ รหัสผ่าน ที่ท่านได้ลงทะเบียนไว้
ต้อง เห็นรายละเอียดชัดเจน ทุกด้าน ทั้งองค์
ควร ลงรูปทุกด้าน (หน้า หลัง ด้านข้าง ด้านบน ด้านล่าง)
ห้าม ลงรูปไม่คมชัด ไม่ละเอียด เบลอ
ห้าม วางพระเครื่อง รวมหลายๆ องค์ ในภาพเดียว
ห้าม ลงรูปพระไม่ซ้ำกันใน 1 ประกาศ
สิ่งสำคัญ: ห้ามลงพระซ้ำกับพระที่เคยลงประกาศไปแล้ว และยังแสดงอยู่ในหน้าเว็บไซด์
สินค้าที่ห้ามลงประกาศ: ชุดพระในคอ, งานทำบุญ , ข่าวพระเครื่อง, โฆษณาร้านพระ, ใบรับประกันร้านพระ, ข่าวสารพระเครื่อง, งานประกวด หรือ สินค้าอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้อง หากพบว่าลงพระไม่ถูกต้อง ไม่ตรงตามประเภท หรือ ลงสินค้าที่ไม่เกี่ยวข้อง ทางเว็บไซด์พระพันธุ์ทิพย์ดอทคอม ขอสงวนสิทธิ์ในการลบรายการพระนั้นๆ ออก โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
อ่านเพิ่มเติมที่ ลงรูปพระเครื่องแบบไหน ที่ทำให้คนเข้าชมเยอะ
- ประเภทพระ (เลือกประเภทพระ 1 รายการ) ดูรายละเอียดประเภทพระ
- ชื่อพระ
- ราคา (เฉพาะตัวเลขเท่านั้น)
- รายละเอียดพระ
- รูปพระ (ลงรูปพระได้ 1-5 รูป)
- รูปถ่ายบัตรประชาชน+หน้าสมุดบัญชีธนาคาร 1 รูป
- พื้นที่/จังหวัด
- ผู้ขาย (ชื่อ/นามสกุล)
- เบอร์โทรศัพท์ (เฉพาะตัวเลขเท่านั้น)
- Line id
สถานะ | รายละเอียด |
---|---|
รอตรวจสอบ | อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล |
ไม่ผ่านการตรวจสอบ | เนื่องจาก ภาพไม่ชัด / ข้อมูลไม่ครบ /ผิดเงื่อนไข (เช่น ลงพระซ้ำ) เมื่อไม่ ผ่านการตรวจสอบจะลบประกาศออกทันที หากต้องการแก้ไขหรือเพิ่มเติมให้ลงใหม่เท่านั้น |
กำลังใช้งาน | พระแสดงหน้าเว็บไซด์แล้ว จนถึงวันที่ ..../...../..... |