แม็กกาซีนพระ บทความและสาระความรู้

ของดี หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย พระอาจารย์ขลังแห่งเมืองสมุทรสงคราม
3 เมษายน 2563    4,805

หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย พระอาจารย์ขลังแห่งเมืองสมุทรสงคราม

โดย ศาล มรดกไทย

แม่น้ำแม่กลอง เส้นทางสายแม่น้ำที่ไหลผ่านหลายๆ จังหวัดทางภาคกลางของเมืองไทย มีวัดวาอารามจํานวนมากที่ตั้งริมแม่น้ำสายนี้ สําหรับพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังสมัยอดีต ถ้ากล่าวถึงลุ่มแม่น้ำแม่กลองในเขตจังหวัดสมุทรสงคราม ต้องนึกถึงหลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย เป็นอันดับต้นๆ ด้วยหลวงพ่อเป็นพระอาจารย์ของลูกศิษย์ยุคต่อมาชื่อดังหลายๆ ท่าน ยิ่งเรื่องวัตถุมงคลของท่านสร้างชื่อเสียงเป็นที่นิยมเพราะมีพุทธคุณสูง เป็นที่ต้องการของผู้ศรัทธามานาน แม้กระทั่งพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมหาราช (รัชกาลที่ 5) พระองค์ยังกล่าวถึงวัดพวงมาลัยว่า “มีพระสงฆ์อาคมขลังเป็นพระครูวินัยธรรม เจ้าอาวาส ชาวบ้านเรียกกันว่า "หลวงพ่อแก้ว" มีผู้เลื่อมใสมาก แสดงให้เห็นถึงความมีชื่อเสียงของหลวงพ่อในสมัยนั้นเป็นยิ่งนักแม้กระทั่งในหลวงรัชกาลที่ 5 พระองค์ยังทรงพระราชนิพนธ์กล่าวถึง



หลวงพ่อแก้ว เกิดในปี พ.ศ.2393 ที่ตําบลบางแค อําเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เมื่อมีอายุได้ 10 ขวบได้บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดบางแคใหญ่ และได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในปี พ.ศ.2413 ที่วัดบางแคใหญ่แห่งนี้ โดยมีพระอาจารย์เพ็งเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “พรหมสโร”


ตั้งแต่เป็นสามเณรหลวงพ่อท่านร่ำเรียนวิชากับหลวงพ่อเพ็งจนมีความชํานาญในวิชาแขนงต่างๆ รวมถึงการนั่งวิปัสนากรรมฐาน โดยควบคู่กับการศึกษาวิชากับโยมบิดาของท่าน ซึ่งบิดาท่านเป็นทหารวังหน้ามีความเชี่ยวชาญในวิชาอาคมได้รับการ ยกย่องว่ามีวิชาคงกระพันชาตรีที่เข้มขลังเป็นยิ่งนัก

เมื่อบวชเป็นพระสงฆ์ได้ไม่กี่ปี ท่านได้เดินทางไปอยู่จังหวัดเพชรบุรี โดยอยู่กับพระอาจารย์เกตุพระพี่ชายแท้ๆ ของท่านที่วัดทองนพคุณ และได้เดินธุดงค์ไปร่ำเรียนเพิ่มเติมกับพระอาจารย์เก่งๆ ในยุคนั้นอีกหลายๆ องค์

จนถึงปี พ.ศ.2424 ท่านได้เดินทางกลับมาที่จังหวัดสมุทสงคราม ชาวบ้านได้นิมนต์ให้หลวงพ่อเป็นเจ้าอาวาสจําพรรษาอยู่วัดช่องลม ได้สร้างความศรัทธาต่อศิษย์ที่มาขอให้ท่านช่วยปัดเป่าเรื่องร้ายๆ ที่ประสบพบเจอด้วยการทําน้ำมนต์และแจกเครื่องรางของขลัง จนเป็นที่ร่ำลือว่าหลวงพ่อวัดพวงมาลับมีวิชาคาถาอาคมขลัง เครื่องรางของท่านมีพุทธคุณสูงเป็นที่เชื่อมั่นของชาวแม่กลอง รวมถึงชาวประมงที่ล่องเรือหาปลาในทะเลเป็นอย่างยิ่ง

จนถึงปี พ.ศ.2430 วัดพวงมาลัย ที่ก่อสร้างเสร็จโดยความศรัทธาของนายพวงและนางมาลัย คหบดีชาวแม่กลองที่มีความนับถือหลวงพ่อแก้วจึงได้นิมนต์ให้ท่านมาเป็นเจ้าอาวาสรูปแรก ซึ่งหลวงพ่อก็รับนิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาส สร้างวัดให้เจริญรุ่งเรือง ทั้งสร้างโบสถ์ ศาลาการเปรียญ ฯลฯ โดยมีชาวบ้านรวมถึงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ แม้กระทั่งพระราชวงศ์หลายๆ พระองค์ ก็มาเป็นศิษย์ช่วยท่านก่อสร้างวัดด้วยการเป็นแม่งานในการหาปัจจัย และช่วยชาวบ้านก่อสร้างวัดจนเป็นวัดที่ใหญ่โตเจริญรุ่งเรืองมาจนถึงทุกวันนี้ หลวงพ่อปกครองเป็นที่พึ่งของชาวบ้านที่นับถือจนถึงปี พ.ศ.2462 หลวงพ่อได้มรณภาพที่วัดพวงมาลัย สิริอายุรวม 69 ปี 49 พรรษา
 

จากการที่หลวงพ่อสนใจในเรื่องการเรียนศึกษาวิชาอาคมตั้งแต่เป็นสามเณร ทําให้หลวงพ่อมีสมาธิที่เข้มขลังสร้าง เครื่องรางของขลัง จนมีพุทธคุณสูง ทั้งทางเมตตามหานิยมแคล้วคลาดปลอดภัย โดยเฉพาะเรื่องมหาอุด คงกระพันชาตรี เป็นที่เชื่อถือว่าเด็ดขาดเป็นยิ่งนัก ไม่ว่าจะเป็น ผ้ายันต์ ลูกอม ตะกรุด โดยเฉพาะ "ตะกรุดของหลวงพ่อแก้ว" โด่งดังในด้านพุทธคุณมีชื่อว่าตะกรุดใบลานบังปืน และตะกรุดพิศมรใบลาน เป็นที่นิยมตั้งแต่สมัยที่หลวงพ่อได้เริ่มสร้างมีเคล็ดว่าต้องนําใบลานจากตําบลบางปืน



ซึ่งสมัยนั้นการเดินทางไปเอาใบลานที่นั่นค่อนข้างลําบาก เมื่อมีศิษย์ถามถึงเรื่องในการใช้ใบลานหลวงพ่อจึงกล่าวว่า “อยากจะได้ของดีต้องรี่ไปไกล ไกลแค่ไหนถ้าไม่ไป ก็ไม่ได้ของดี” เมื่อศิษย์ที่ต้องการนําใบลานจากบ้านบางปืนมาถวายท่านแล้ว หลวงพ่อจะตัดตามขนาดที่ต้องการและนํามาลงอักขระยันต์ กล่าวกันว่าท่านลงด้วยยันต์หัวใจเสือสมิง “ภู ภิ ภู ภะ ล้อมตัว อะ มิ ล่างสุดลงด้วยยันต์หัวใจมหาอุด อุดธัง อัดโธ” หลังจากที่หลวงพ่อปลุกเสกเป็นอย่างดีแล้วจึงได้มอบให้ศิษย์ที่ขอกับท่านไว้และผู้ที่ได้รับจะนําไปทักเชือกลงรักตะกรุดบางดอกมีการลงรักปิดทองเอาไว้อย่างสวยงาม


จากประสบการณ์ที่กล่าวขานกันว่าดีทางมหาอุด คงกระพันชาตรีมานานทําให้ได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นตลอดมา

ในด้านวัตถุมงคลประเภท พระเครื่อง ที่ได้รับความนิยมของท่านจะเป็น เหรียญปั๊มรูปเหมือนหลวงพ่อ เหรียญปั๊มรูปพระพุทธ และเหรียญหล่อรูปพระพุทธ ที่ได้รับความนิยม คือ

ฉบับ 148-เหรียญหลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย

1 เหรียญปั๊มรูปหลวงพ่อ “บล็อควัด” สร้างในปี พ.ศ.2459

เป็นที่ระลึกในคราวสร้างพระอุโบสถ มีเนื้อทองแดงเพียงชนิดเดียว ไม่ทราบจํานวนการสร้างที่แน่ชัดขาดว่ามีไม่กี่ร้อยเหรียญ ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อแก้ว รายล้อมด้วยช่อรวงข้าวที่สวยงาม ภานนอกด้านข้างเหรียญมีอักขระขอมว่า “นะอุด โมอัด พุทษัด ธาปิด ยะอุด” ด้านล่างเขียนปีที่สร้างเป็นเลขไทยชื่อ 2459 หมายถึงปีที่สร้างเหรียญด้านหลังเป็นยันต์อักขระ อ่านว่า “อุดทั้ง อัดโท ปิดนะ นะโมพุทธายะ”และมียันต์หัวใจเสือสมิงตรงกลางเหรียญว่า “ภู ภี ภู มะ” และคําว่าพรหมสโร คือชื่อของหลวงพ่อ

 

2 เหรียญปั้มรูปพระพุทธ
เป็นเนื้อทองแดงเพียงชนิดเดียวเช่นกัน และมีจํานวนน้อยหาได้ยาก ลักษณะการวางยันต์เหมือนเหรียญรูปหลวงพ่อ เพียงแค่เปลี่ยนจากหลวงพ่อแก้วเป็นรูปพระพุทธ มี พ.ศ.ปีที่สร้างเหรียญเช่นเดียวกันแตกต่างตรงด้านหลังเหรียญตรงคําว่าชื่อหลวงพ่อ “พรหมสโรเป็นคําว่า พระอรหัง” ซึ่งสร้างพร้อมกับเหรียญรูปเหมือนหลวงพ่อแก้วในคราวสร้างพระอุโบสถ


3 เหรียญปั้มรูปหลวงพ่อ “บล็อควัง”
ในที่นี้คือวังบูรพาของสมเด็จกรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช ศิษย์ที่เป็นผู้อุปถัมภ์ให้กับวัดพวงมาลัย และมีความนับถือหลวงพ่อได้ขอสร้างเหรียญในคราวสร้างพระอุโบสถปี พ.ศ.2459 เช่นเดียวกันแต่แกะแม่พิมพ์ใหม่ใช้รายละเอียดบนเหรียญเช่นเดียวกับบล็อกวัด มีจํานวนการสร้างที่มากกว่าแต่มีเพียงเนื้อทองแดงชนิดเดียว ทําให้ได้รับความนิยมน้อยว่าเหรียญพิมพ์บล็อกวัด เพราะชาวบ้านรวมถึงลูกศิษย์ชอบรูปแบบของพิมพ์วัดนี้มากกว่า


4 เหรียญหล่อพิมพ์พระพุทธ
ลักษณะเป็นทรงใบสาเก แบ่งเป็นพิมพ์พระพุทธรูปแบบเศียรแหลมและพิมพ์เศียรโล้นได้รับความนิยมพอๆ กัน สร้างด้วยเนื้อโลหะทองเหลืองผสม หล่อขึ้นแบบโบราณที่วัดโดยมีชาวบ้าน ลูกศิษย์ที่ศรัทธานําทองคํา เงิน นาค โลหะขันลงหิน ฯลฯ มาร่วมใส่เบ้าหลอมในพิธี คาดว่าสร้างประมาณปี พ.ศ.2459 หรือหลังจากเหรียญปั๊มรูปเหมือนท่านไม่นาน ด้านหน้าและด้านหลังเหรียญมีอักขระ ประจําของหลวงพ่อ ดูแล้วเข้มขลังน่าบูชาติดตัวเป็นอย่างยิ่ง


หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่สุดของเมืองสมุทรสงคราม โด่งดังมาก่อนหลวงพ่อคง วัดบางกะพร้อม เหรียญของท่านจัดเป็นเหรียญยอดนิยมของเมืองไทย ทั้งยังเป็นเหรียญพระสงฆ์ยุคแรกๆ ของเมืองไทยที่มีการสร้างขึ้นมาได้รับความนิยมมีราคาสูง แสดงถึงความเข้มขลังในวัตถุมงคลของหลวงพ่อและจากประสบการณ์ที่มีผู้พบเจอ กล่าวได้ว่าเป็นพระเครื่องขลังล้ําค่าที่ไม่เป็นสองรองใครจริงๆ